ชี้เส้นทาง“กำนันนก-25 ตำรวจ”วัดรอย”นักการเมืองรุ่นเก๋า-ตร.รุ่นพี่”
หวัง”ต้นร้ายปลายดี”-แต่ไม่ได้ดังหวัง”

ข่าว พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 ถูกนายธนัญชัย หมั่นมาก ลูกน้องนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก กำนันตำบลตาก้อง อ.เมือง นครปฐม ยิงตายในบ้านกำนันนก ต่อหน้าต่อตานายตำรวจระดับ พ.ต.อ.ถึงชั้นประทวน 25 นาย
กลายเป็นประเด็นร้อนที่สื่อทุกแขนงนำเสนออย่างต่อเนื่องแตกประเด็นอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าประเด็นประวัติ การใช้ชีวิตประจำวัน เครือข่ายธุรกิจที่สร้างรายได้นับพันล้านของกำนันนก สร้างความเคลือบแคลงให้กับสังคมถึงที่มาของความร่ำรวย รวมถึงประเด็นทั้งบรรดานายตำรวจแต่ละชั้นยศเข้าไป เป็นลมใต้ปีก บางคนซูฮกเสมือนผู้บังเกิดเกล้า ยอมทำทุกอย่างตามที่กำนันนกสั่ง
กรณีของ พ.ต.ต.ศิวกร ที่ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางส่งไปแก้ปัญหาส่วยรถบรรทุกน่าจะเป็นตัวอย่างได้ เพราะกำนันนกสั่งให้ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล โทรศัพท์เรียก พ.ต.ต.ศิวกร ไปพบ ขอให้ไฟเขียวปล่อยรถบรรทุกนับร้อยคันวิ่งแบกน้ำหนักได้แต่ พ.ต.ต.ศิวกร ไม่ยอมเลยพบจุดจบต่อหน้าต่อตา พ.ต.อ.วชิรา สุดท้ายพ.ต.อ.วชิรา ปลิดชีพตัวเองวันเดียวกับพิธีพระราชเพลิงศพ พ.ต.ต.ศิวกร
จากเหตุสะเทือนวงการสีกากีและวงการนักการเมืองท้องถิ่นทรงอิทธิพล ถ้ามองให้ลึกถึงรากโครงสร้างสังคมไทยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะเป็นระบบอุปถัมภ์ เอื้อประโยชน์ แบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่ามาช้านาน
บางยุคเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลที่อยู่ในคราบนักการเมืองท้องถิ่นทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำตัวเหนืออำนาจรัฐสร้างความเดือดร้อนให้สุจริตชน บางยุคผู้มีอำนาจรัฐใช้เจ้าพ่อผู้อิทธิพลเป็นมือเป็นไม้จัดการฝ่ายตรงข้าม
เจ้าพ่อผู้มีอิทธิพล แต่ละคนจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป บางคนวางรากฐานของตัวเองด้วยการใช้อิทธิพลมืดให้ได้มาซึ่งอำนาจทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกเทศมนตรี สมาชิกสภาจังหวัด (ส.จ.) ก่อนไต่เต้าเป็นส.ส.และรัฐมนตรี
บุคคลเหล่านี้ล้วนประกอบธุรกิจสีเทาไม่ว่าจะเป็นธุรกิจน้ำมันเถื่อน ค้ายาเสพติด บ่อนการพนันและสินค้าเถื่อนทุกชนิด รวมถึงเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างงานรัฐแบบฮั้วประมูล มือไม้สำคัญให้ธุรกิจไหลรื่นคงหนีไม่พ้นเจ้าหน้ารัฐเกือบทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร ศุลกากรหรือสรรพากร เป็นต้น
ช่วงปี 2533-2534 เจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลแผ่บารมีกว้างไกล จนความเดือดร้อนแผ่ถึงสุจริตชน บางคนวางแผนลงชิง ส.ส.จนกลายเป็นข้ออ้างหนึ่งของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.)ในการยึดอำนาจจากรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ห้วงเวลานั้นจะมีชื่อ นายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ ฉายาเจ้าพ่อตะวันออก นายชัชวาลย์ คงอุดม ฉายาชัช เตาปูน นายไพจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือปอ ประตูน้ำ และนายแคล้ว ธนิกุล ฉายาเจ้าพ่อเมืองหลวง เป็นต้น ถูกมองว่าเข้าข่ายเป็นผู้อิทธิพล
พลันที่ รสช.ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จก็ได้ส่งสัญญาณถึงบรรดาผู้มีอิทธิพลให้หยุดพฤติกรรม ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลายคนหลบลี้หนีภัยไปต่างประเทศ มีเพียงนายแคล้ว ที่ยังคงดึงดันยืนยันจะลงสมัคร ส.ส.ที่บ้านเกิดสมุทรสงคราม ก็มาพบจุดจบก่อนถึงฝัน
กระทั่งมาถึงยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นยุคนี้ผู้มีอิทธิพลต่างแจ้งเกิดทั่วหน้า ถูกดึงไปเป็นนั่งร้านให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ บางคนส่งร่างทรงนั่งเสนาบดี
แบบอย่างของพวกเจ้าพ่อผู้อิทธิพลเหล่านี้เข้าทำนองต้นร้ายปลายดี ลิ่วล้อที่ฉลาดจะลอกเลียนแบบเจริญรอยตามขยับฐานะจากลิ่วล้อมาเป็นมือซ้ายมือขวาหาประโยชน์ให้กับเจ้านายและตัวเอง สั่งสมบารมีและฐานะไปเรื่อยๆ กรณีของกำนันนกน่าเป็นตัวอย่างของการลอกเลียนแบบได้เป็นอย่างดี
เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่านครปฐมแม้จะอยู่ใกล้เมืองหลวง แต่สุจริตชนในพื้นที่รู้ว่าเป็นแดนสนธยาเพราะเกิดอาชญากรมคราวใดเรื่องมักจะจบแบบไร้คำตอบ
“พื้นที่นครปฐมอยู่ในลักษณะบ้านใหญ่มีอิทธิพล มีข้าราชการเกือบทุกระดับยอมสิโรราบ บิ๊กตำรวจบางคนถึงขั้นมีห้องทำงานอยู่ที่ครอบครัวบ้านใหญ่”
เมื่อส่องธุรกิจของกำนันนกจะพบว่าเครือข่ายกว้างขวางกวาดงานรับเหมาภาครัฐเกือบทั่วประเทศกว่า 7 พันล้าน ถ้ามองศักยภาพของคนวัย 30กว่าๆถ้าไม่มีบ้านใหญ่ทรงอิทธิพลหนุนช่วยหรือเอื้อกันคงไม่สามารถขยายงานได้มากขนาดนี้
เครือข่ายธุรกิจกว้างขวางผลประโยชน์จะเกิดแบบเงาตาม เงินเยอะบารมีก็จะเพิ่มมากขึ้น ธุรกิจใหญ่ขนาดนี้ต้องมีข้าราชการคอยเอื้อประโยชน์ และผลตอบแทนคือข้าราชการจะได้ทั้งยศและความร่ำรวย จึงไม่แปลกที่งานวันเกิดกำนันนกจะมีข้าราชการนักการเมืองท้องถิ่นเข้าร่วมอย่างคับคั่ง
ครั้นมามองให้แวดวงสีกากีงนับแต่เผด็จการทหารครองเมือง การวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้นเกือบทุกระดับชั้น ตำรวจก็จำเป็นต้องวิ่งเข้าหาผู้มีอิทธิพลในวางการต่างๆเพื่อหาตั๋วฝาก
สัจธรรมที่ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ใช้ได้เสมอในแวดวงสีกากี เพราะผู้ที่สามารถช่วยเหลือเรื่องตำแหน่งได้ย่อมจะมีธุรกิจที่หมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย บรรยากาศลักษณะนี้บิ๊กตำรวจหลายคนก็เดินแนวนี้มาแล้วเช่นกัน อดีตตำรวจนครบาลบางคนถึงขั้นกราบกรานผู้มีอิทธิพลเป็นพ่อบุญธรรม
ยิ่งในช่วงที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เป็นขุนพลคู่ใจ น่าจะสัมผัสบรรยากาศแบบนี้มาแล้ว และส่วนหนึ่งที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ต้องระเห็จจากรั้วสีกากีไปพักหนึ่ง มีเสียงวิจารณ์ว่าเพราะพิษแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจรวมอยู่ด้วย
“จึงไม่แปลกใจที่เห็นตำรวจกว่า 20 นายร่วมก๊วนดื่มกินในบ้านกำนันนกจนเกิดเหตุร้าย และบางวาระมีระดับ พล.ต.ต.ก็เข้าร่วมด้วย ก็พออนุมานได้ว่าตำรวจเหล่านี้ต่างใช้บริการกำนันนกทั้งตำแหน่งและเงินตรามาแล้ว และเชื่อได้ว่าผลประโยชน์ที่กำนันนกแจกจ่ายไม่ได้จบแค่ 25 คนนี้ แต่ย่อมกระจายไปทั่วถึงระดับกองบัญชาการแน่นอน”
เหตุการณ์ที่บรรดาข้าราชการซุกปีกผู้มีอิทธิพลไม่ได้เกิดแค่บ้านกำนันนกเพียงที่เดียว แต่สามารถหาดูได้เกือบทุกจังหวัดที่มีบ้านใหญ่ครอบครอง เพียงแต่กำนันนกอหังการเกินไปจึงพบจุดจบเร็ว ถ้ากำนันนกลดความอหังการ สุขุมมากกว่านี้ประเทศไทยอาจจะมีเสนาบดีชื่อ”ประวีณ จันทร์คล้าย”ก็เป็นได้ เพราะทุกวันนี้ก็มีแบบอย่างเป็นที่ประจักอยู่แล้ว !!!


