พระเกจิอาจารย์ นักพัฒนาผู้มีเมตตา ผู้สร้างเสือ 9 ตะวัน 1 จันทราและตะกรุดคอหมาอันเลื่องชื่อ หลวงปู่แย้ม แห่งวัดตะเคียน นนทบุรี
อ่านสนุกแบบมีทั้งศรัทธาและพาณิชย์ไปกับ คอลัมน์พระบ้าน by ต้นคนชอบพระ
” ปุญณะจันโท วิชานันเต วิสุทรีสาวะ โภ วะโร
พุทโร สัทธัมมะรังสี มุนิโน มมัตคะเกสกัง “
คาถา จันทร์เพ็ญ

จันทร์เพ็ญ หมายถึง คืนที่พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงสว่างกลางนภา เมื่อมองพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญทีไรให้นึกถึงเรื่องราวของความรัก ความโรแมนติก และความเศร้าซึ้งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตทุกที ตอนแรกก็คิดว่า ว้าวุ่นแบบนี้มีแค่เรา แต่พอลองสอบถามคนอื่นก็พบว่าก็มีคนที่มีความรู้สึกคล้ายๆเรา ทีนี้ก็เอาแล้ว ไอ้เราก็ขี้สงสัย ก็เลยว้าวุ่น ต้องไปหาข้อมูลในอากู๋ มาดูให้หายสงสัย จนได้พบว่า
ดวงจันทร์ เป็นดาวที่มีอิทธิพลรุนแรงต่อดวงชะตาเหนือกว่าดาวอื่นๆ เกือบทั้งหมด เป็นเพราะ ความใกล้ชิด กับโลก ที่ทำให้ดวงจันทร์มีแรงดึงดูดที่กระทำต่อโลก ในระดับที่รุนแรงกว่าดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ เป็นอย่างมาก นอกจากจะมีผลต่อการขึ้นลงของระดับนํ้าแล้ว ยังส่งผลต่อการเคลื่อนของเปลือกโลกด้วย และอะไรก็ตามที่มีผลต่อโลก ก็จะมีผลต่อสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกด้วย เพราะแบบนี้ ดวงจันทร์จึงมีผล ต่อ “น้ำและของเหลว” ในร่างกายของสิ่งมีชีวิต อันได้แก่เลือด น้ำลาย ฯลฯ
ธาตุน้ำ เป็นตัวแทนของ “อารมณ์และความรู้สึก” เนื่องจากธาตุน้ำมีความอ่อนไหว ปรับเปลี่ยนลักษณะไปตามภาชนะที่บรรจุ เปรียบได้ดั่ง จันทร์บนท้องฟ้าที่มีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ทำให้นักโหราศาสตร์ยกให้ดวงจันทร์เป็นตัวแทนของอารมณ์ ความรู้สึก มีความอ่อนไหวมากเป็นพิเศษต่อพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า และน้ำ อันเป็นองค์ประกอบพื้นฐานสำคัญของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ซึ่งประกอบด้วยอนุภาคที่เล็กที่สุดที่มีการสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา และ ก่อให้เกิดพลังงานในรูปของคลื่นซึ่งมีได้หลายรูปแบบ ที่ระดับความถี่แตกต่างกัน คลื่นเหล่านี้จะมี ปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน และมีอิทธิพลซึ่งกันและกันตลอดเวลา มากน้อยแตกต่างกันไป และด้วยรูปแบบของพลังงานนี้ เป็นจุดที่นักโหราศาสตร์ในอดีตเน้นเรื่องนำดาวจันทร์มาใช้ในการจัดฤกษ์ผานาที และพยากรณ์ดวงชะตา ดวงจันทร์ถือเป็นหน้าด่านในการกรองรังสีต่างๆที่แผ่ออกมาของดาวดวงอื่นก่อนที่จะตกลงมาสู่โลก ถ้าเราอยากรู้ว่าดาวดวงไหน ส่งผลกับโลกมากหรือน้อย จะส่ง ผลถึงมนุษย์หรือไม่เราก็ต้องดูจากดาวจันทร์นี่แหล่ะ และเพราะดาวจันทร์มีความสำคัญแบบนี้ในทางโหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ จึงมักจะมีการทำพิธีตามความเชื่อ เช่นการขอเงินพระจันทร์ การอาบน้ำเพ็ญพร้อมท่องคาถาบูชาจันทร์เพ็ญไป 15 จบ และในคืนเพ็ญมักจะเป็นคืนที่มีการสร้างและปลุกเสกเครื่องรางของขลังที่เน้นด้าน เสน่ห์เมตตามหานิยม เพราะเชื่อว่าหากเครื่องรางของขลังได้อาบแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญจะช่วยส่งเสริมอานุภาพในด้านเมตตามหาเสน่ห์ยิ่งนัก
หนึ่งในวัตถุมงคลที่เด่นในสายเสน่ห์เมตตามหานิยมนั้นคือ เสือเดือนเพ็ญ ของหลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียน โดยเกิดจาก คณะกรรมการวัดอยากได้เงินไปบูรณะศาสนสถานภายในวัดและตลาดน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เดินทางมาทำบุญและท่องเที่ยว จึงขอหลวงปู่แย้มจัดสร้างโดยใช้ชื่อรุ่นว่า “เสือเดือนเพ็ญ” โดยจะทำพิธีปลุกเสก ๙ ตะวัน ๑ จันทรา ( 9 กลางวัน 1คืนเพ็ญ )โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 ถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน ปีพุทธศักราช 2553 ซึ่งมีวันลอยกระทงอันเป็นคืนเพ็ญอยู่ในห้วงนั้น ในพิธีพุทธาภิเษกวันเปิดงาน พระธรรมรัตนดิลก วัดสุทัศนเทพวราราม เจ้าคณะภาค 4 เป็นประธานจุดเทียนชัย และนั่งปรกปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์ หลังจากนั้นนิมนต์พระคณาจารย์นั่งปรก อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอด 9 วัน พระเกจิที่เมตตามานั่งปรกได้แก่ หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ, หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว, หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม, หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อรวย วัดตะโก, หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน, หลวงพ่อสุวรรณ วัดยาง อ่างทอง และหลวงปู่เก๋ วัดปากน้ำ นนทบุรี เป็นผู้ดับเทียนชัย
ในด้านพุทธคุณของเสือเดือนเพ็ญหลวงปู่แย้ม 9 ตะวัน 1 จันทรา จะโดดเด่นในเรื่อง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ความเจริญก้าวหน้าเมตตามหานิยม มหาอำนาจ โชคลาภ เรียกว่าครบเครื่อง บู๊ก็ได้บุ๋นก็ดี น่ามีไว้ใช้สุดๆ โดยเสือเดือนเพ็ญรุ่นนี้จะมีลักษณะเป็นเสือหล่อ มีช่อติดอยู่ที่ขาทุกตัว มียันต์อันเป็นยันต์ประจำตัวของหลวงปู่ ซึ่งเอกลักษณ์ของวัตถุมงคลของหลวงปู่แย้มทุกชนิด คือ ยันต์มหาเบา เป็นยันต์ครูซึ่ง หลวงปู่แย้มได้ร่ำเรียนมาจากหลวงพ่อสาย วัดหนองสองห้อง ผู้สืบวิทยาคมสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าอีกรูปหนึ่ง โดยยันต์ มหาเบา นี้ เด่นด้านคงกระพัน สมัยก่อนท่านจะจารยันต์ใส่ตะกรุด เสร็จแล้วท่านก็จะม้วนตะกรุดพร้อมคาถากำกับทุกดอก แล้ว ประจุเสกจนของขึ้นมีพลังท่านบอกว่าต้องอย่างนี้ซิถึงจะใช้ได้เอาไปลองได้เลย ปืนก็ปืน มีดก็มีดรับรอง ไม่ได้กินเนื้อกินเลือดเราแน่ แต่สำหรับเสือเดือนเพ็ญนอกจากยันต์มหาเบา ยังมียันต์ด้าน มหาเสน่ห์เมตตามหานิยม โชคลาภ อยู่รอบตัวเสือทำให้รุ่นนี้มีพุทธคุณครบเครื่อง เรื่องราคาก็ว่ากันพันกลางถึงพันต้นๆเท่านั้น

ในส่วนตัวผู้สร้างและร่วมปลุกเสกอย่างหลวงปู่แย้มนั้น เดิมท่านมีนามว่า “แย้ม ปราณี” เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ตำบลเจ็ดริ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร บิดาชื่อ “เพิ่ม” มารดาชื่อ “เจิม” อายุครบ ๒๐ ปี อุปสมบทตามประเพณี อีกทั้งยังจะได้อุทิศส่วนกุศลให้มารดาที่ล่วงลับไปแล้ว อุปสมบทครั้งแรกที่วัดหลักสองบำรุงราษฎร์ โดยมี พระครูคณาสุนทรนุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ อธิการเหลือ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ชื่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปิยวณฺโณ” โดยเมื่อบวชตอนแรกท่านตั้งใจจะอยู่ในร่มกาสาวพัตรแค่เพียง 2 พรรษา แต่จะด้วยเหตุปัจจัยในอดีตบางอย่างทำให้ในพรรษาที่ 2 หลวงพ่ออาพาธหนัก ต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้านด้วยยาต้มแผนโบราณ จนหายดีจึงกลับไปอยู่วัดหลักสองไม่ได้สึกตามที่ตั้งใจ ต่อมาท่านได้ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณจนแตกฉานด้วยการอ่านจากตำรา และ สงเคราะห์รักษาชาวบ้านจนมีชื่อเสียงโด่งดัง ประมาณพรรษาที่ ๑๐ ท่านได้เรียนพุทธมนตราคาถา จากหลวงพ่อสาย วัด หนองสองห้อง จ.สมุทรสาคร ท่านบอกว่าใช้เวลาเรียนไม่นาน เนื่องจากวิชาที่เรียนมีมาก จึงเลือกเรียนเพียงบางวิชาเท่านั้น ถ้าเรียนทุกอย่างคงไม่ไหว เพราะมีวิชาให้เรียนเยอะ ท่านจึงเลือกเรียนวิชาทำตะกรุด เพื่อเอาไว้ป้องกัน และรักษาตัวจากภัยยันอันตราย กระทั่งพรรษาที่ 11
ลุงเคลิ้มโยมอุปัฏฐาก ได้นิมนต์ให้มาอยู่จำพรรษา ณ วัดตะเคียน จะได้เป็นเพื่อนกับพระบวชใหม่ลูกชายของโยมลุงเคลิ้มที่บวชและจำพรรษาที่วัดตะเคียน ซึ่งสมัยนั้นวัดแห่งนี้มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว คือ หลวงพ่อแดง ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสซึ่งหลวงพ่อแดงท่านก็ยินดีให้มาอยู่ด้วยจะได้ช่วยกันดูแลวัด
แต่ผ่านไปไม่ถึงเดือนหลวงพ่อแดงท่านถึงแก่มรณภาพ ทำให้เจ้าคณะผู้ปกครองมีคำสั่งลงมาว่าให้หลวงปู่แย้มทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสและต่อมาก็ได้รับ แต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่นั้นมาจวบจนวันหลวงปู่แย้มท่านมรณะภาพ จริงๆ วัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อของ หลวงปู่แย้ม มีหลายอย่างเช่น พระขุนแผนยอดขุนพล พระนางพญา พระขุนแผนใบบัว เสือปืนแตก และ ตะกรุดคลองตะเคียนโดยท่านได้จารยันต์ คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ หรือเรียกว่า “แม่ธาตุใหญ่” ซึ่งมีพุทธคุณเหนือยันต์ทั้งปวง ลงในไว้ตะกรุด อีกทั้งยังมีความเชื่อสืบต่อกันว่า ผู้ใดที่ท่องหรือบริกรรมพระคาถาบทนี้ด้วยจิตอันสงบ และมั่นคงแล้ว จะมีพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาล คือ มีครบทุกด้าน เช่น เมตตามหานิยมแคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย

แต่วัตถุมงคลที่มีชื่อลือเลื่องอันเป็นต้นกำเนิดของเสือปืนแตกและเสือเดือนเพ็ญ คือ ตะกรุดคอหมา อันโด่งดังเนื่องมาจากหลวงปู่แย้มท่านเป็นพระที่มีเมตตาต่อสรรพสัตว์โดยเฉพาะหมา แต่ด้วยจำนวนหมาที่ค่อนข้างเยอะและมักจะเห่าหรือกัดคนที่ท่าทางไม่น่าไว้ใจหรือเมา แถววัดอยู่บ่อยทำให้หลายคนผูกใจเจ็บมักไล่ทำร้ายหมาพวกนี้อยู่เนืองๆ หลวงปู่ท่านด้วยความสงสารเลยจารตะกรุดแล้วเอามาผูกคอหมาวัดเอาไว้ แรกๆก็ไม่ค่อยอะไร แต่จนอยู่มาวันนึง มีคนใจร้ายเอาปืนไปยิงหมาที่ท่านผูกตะกรุดไว้แต่ยิงไม่ออก เท่านั้นละแตก ไม่ใช่ปืนแตกนะ วัดแทบแตกเพราะคนพากันแห่แหนไปหาหลวงปู่ให้ทำตะกรุด จนท่านจารให้ไม่ทัน คนถึงขั้นแย่งจากคอหมาก็มี จากข้อนี้ทำให้รู้ว่าอำนาจพุทธคุณนั้นย่อมคุ้มครองสุจริตชนทุกผู้อย่างเท่าเทียมไม่เว้นแม้สัตว์เดรัจฉาน
วาระกาลสุดท้ายของ พระครูปิยนนทคุณ หรือหลวงปู่แย้ม ปิยวัณโณ เจ้าอาวาสวัดตะเคียน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้มรณภาพเมื่อเวลา 09.20น.ของวันที่ 4 มิถุนายน พศ. 2557 ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ สิริรวมอายุ ณ ขณะนั้นได้ 98 ปี
ยังอยู่กับเกจิอาจารย์ผู้สำเร็จวิชา พยัฆคา แต่จะเป็นท่านใดติดตามต่อใน ep. หน้าครับ
สุดท้ายก่อนจากกันขออนุญาตฝากข่าวประชาสัมพันธ์งานบุญทอดผ้าป่าสามัคคี วัดน้ำเต้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อสมทบทุนถมที่ดินหนีน้ำท่วมและปรับปรุงถาวรวัตถุ รายละเอียดและเบอร์โทรตามด้านล่างนี้นะครับ

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก สื่อโซเซี่ยล ครับ
ปล. หากมีวัด ศาสนถาน โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯใดที่ต้องการประชาสัมพันธ์การขายวัตถุมงคลหรือบริจาคเพื่อการกุศลอย่างแท้จริง ทางคอลัม์พระบ้าน ยินดีประชาสัมพันธ์ให้ฟรีครับ
สนใจลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ ติดต่อ 0818214442 ต้น


