“ย้อนรอย”ระบอบทักษิณ”คัดคน เน้น”เครือญาติ-รับใช้ไร้เงื่อนไข”

คอการเมืองหรือผู้ติดตามสถานการณ์ทางการเมือง คงไม่มีใครปฏิเสธว่าการจัดทัพคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา 1 มี น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ร่วมเอี่ยวด้วย
บางคนถึงขั้นวิจารณ์ว่า”ระบอบทักษิณ”ได้วนกลับมาอีกคำรบหนึ่งแล้ว
เพราะพลันที่โผครม.หลุดออกมาพบว่ารัฐมนตรีหลายคนล้วนแต่ใกล้ชิด น.ช.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หรือนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ล้วนแต่เคยร่วมหัวจมท้ายกับ น.ช.ทักษิณ มาแล้ว
แต่แคนดิเดตรัฐมนตรีที่มาแบบเหนือความคาดหมายคงหนีไม่พ้นชื่อนายพิชิต ชื่นบาน หัวหน้าทีมกฎหมายของตระกูลชินวัตร
โดยชื่อปรากฏขึ้นหลังมีกระแสข่าวว่านายพิชิต เป็น 1ใน 3 ทีมทนายความที่เข้าเยี่ยม น.ช.ทักษิณ ถูกคุมขังอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจพร้อมญาติและลูกๆน.ช.ทักษิณ รวม 10 คน แม้ภายหลังจะมีทนายความบางคนปฏิเสธว่านายพิชิตไม่ได้เข้าเยี่ยมด้วย
แล้วก็เกิดวลีฮิตว่า”ได้ดีเพราะพี่ดัน”เสมือนเป็นการตอบแทนผลการทำงานแบบไร้เงื่อนไข ถึงขั้นติดคุกก็ยอม
โดยกรณีนายพิชิต ในฐานะทนายความต่อสู้คดีคุณหญิงพจมานซื้อที่ดินย่านรัชดาฯระหว่างไปขึ้นศาลนายพิชิต หิ้วถุงขนมภายในบรรจุเงิน 2 ล้าน ไปวางให้เจ้าหน้าธุรการศาลจนถูกศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาล น่าจะพอเป็นตัวอย่างได้ดี
หากย้อนดูช่วงที่เดินเกมจัดตั้งรัฐบาลทั้งของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ในจังหวะที่ น.ช.ทักษิณยังไม่ได้กลับไทย จะปรากฏชื่อ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวพรรคเพื่อไทย อดีตคณบดีนิติศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยารามคำแหง เสมือนกูรูทางกฎหมายอยู่คู่เพื่อไทยมานาน นั่งรองนายกรัฐมนตรี
เพราะนับแต่นายชูศักด์ เข้าสังกัดเพื่อไทยก็แสดงบทบาทในเชิงกฎหมายมาโดยตลอด ช่วงฟอร์ม ครม.ยิ่งลักษณ์ ชื่อนายชูศักดิ์ ติดโผนั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่สุดท้ายก็หลุดโผ
สาเหตุอาจจะเป็นเพราะนายชูศักดิ์ ทำงานการเมืองแบบมุ่งรับใช้ส่วนรวม ตามแบบฉบับของนักวิชาการน มากกว่าที่จะรับใช้แกนนำพรรคหรือนายทุนพรรค
แต่เมื่อการฟอร์มครม.เศรษฐา 1 เข้าโค้งสุดท้ายชื่อนายชูศักดิ์ก็หลุดโผ แล้วมีชื่อนายพิชิต เข้ามาแทนตามเสียงนินทาว่าส่งตรงมาจากชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
กรณีดังกล่าวก็พอสะท้อนให้เห็นว่า”ระบอบทักษิณ” ได้ย้อนกลับมาครอบงำระบบการเมืองไทยแล้ว
หากย้อนดูถึงการคัดเลือกบุคลากรในยุคที่น.ช.ทักษิณ นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตำแหน่งสำคัญๆทั้งในส่วนของการเมือง ข้าราชการประจำ รัฐวิสาหกิจและมูลนิธิต่างๆมีคนใกล้ชิด น.ช.ทักษิณและคนในตระกูลชินวัตร นั่งกุมบังเหียน ทั้งที่ไม่ปรากฏเป็นข่าวและปรากฏเป็นข่าว อาทิ การแต่งตั้ง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ญาติผู้พี่ นั่งตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)
กระทั่งรัฐบาลน.ช.ทักษิณ ถูกรัฐประหาร พรรคไทยรักไทยถูกยุบ รัฐบาลเผด็จการทหาร จัดให้เลือกตั้ง พรรคพลังประชาชน เครือข่าย น.ช.ทักษิณ ชนะได้นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งน.ช.ทักษิณ ดึงมาเสริมทัพด้วยความภาพแห่งความจงรักภักดีของนายสมัคร
นายสมัคร ถูกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้ตกเก้าอี้ ฐานรับจ้างเป็นพิธีกรทำกับข้าวออกทีวี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม น้องเขย น.ช.ทักษิณ รับไม้ต่อนั่งนายกรัฐมนตรี ได้ไม่นานถูกม็อบกดดัน ก็ลาออก พร้อมพรรคพลังประชาชน ถูกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ กลายร่างมาเป็นพรรคเพื่อไทย
น.ช.ทักษิณ ดันน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ชนะเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย
รัฐบาลยิ่งลักษณ์จัดทัพข้าราชการใหม่ เครือข่ายของน.ช.ทักษิณ เข้าไปนั่งกุมบังเหียนในหลายหน่วยงาน
แต่ที่ฮือฮาเพราะกลายมาเป็นประเด็นสำคัญที่กลุ่มอำนาจเก่าใช้ล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ผ่านกลไกลศาลและศาลก็พิพากษาว่าเป็นย้ายโดยมิชอบ
คือประเด็นที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคำสั่งย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้าย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.มาแทน เพียงเพื่อผลักดัน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน เหลืออายุราชการไม่ถึง 1 ปี ขึ้นแทน โดยมาพร้อมกับเสียงนินทาว่าเพื่อเป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูลดามาพงศ์
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบอบทักษิณ ที่ปรากฏเป็นหลักฐานพอหยิบยกเป็นตัวอย่างให้เห็นภาพ ถึงแนวคิดในการบริหารและเลือกใช้คน ที่เน้นเลือกใช้บริการเครือญาติและบุคคลที่ยอมรับใช้แบบไร้เงื่อนไขแม้ต้องเข้าคุกก็ยอม มากกว่าที่จะเลือกบุคคลที่ยึดหลักการเพื่อส่วนรวมและทำเพื่อภาพรวมของพรรค
ดังนั้นหากครม.เศรษฐา 1 ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯแล้ว แต่ไร้ชื่อนายชูศักดิ์ ที่บรรดาสมาชิกเพื่อไทยต่างเก็งว่านั่งตำแหน่งเสนาบดีแน่นอน แต่กลับมีชื่อนายพิชิตมาแทน ก็พออนุมานได้ว่าระบอบทักษิณกลับมาเต็มรูปแบบแล้ว
เมื่อรัฐบาลเศรษฐา 1 ขับเคลื่อนไปสักระยะ อาจจะได้เห็นการปรับครม.ที่มีคนตระกูลชินวัตรมานั่งในตำแหน่งสำคัญก็เป็นได้ หรือนายกรัฐมนตรีอาจจะเปลี่ยนจาก”เศรษฐา” เป็น”แพทองธาร ชินวัตร”ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นและมีโอกาสเป็นไปได้เพราะแม้ถูกคุมขังก็ยังสั่งการได้ !!!
หมายเหตุ : บทความนี้เขียนก่อนที่
นายพิชิต ชื่นบาน ประกาศไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรี


