เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ที่ด่านพรมแดนแม่สาย จ.เชียงราย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) พร้อมด้วย ม.ล. ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในบรมราชูปถัมภ์ พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ให้การต้อนรับคณะผู้แทนระดับสูงของเมียนมา นำโดย พลโท นี ลิน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติดแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (Central Committee for Drug Abuse Control: CCDAC) พลตำรวจจัตวา วิน หน่าย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดและเลขาธิการร่วม CCDAC และคณะผู้บริหารของ CCDAC ในโอกาสเข้าร่วมศึกษาดูงานโครงการพัฒนาทางเลือกและศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 21 – 25 สิงหาคม 2566 ในพื้นที่ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ และ จ. ลำปาง

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การศึกษาดูงานในครั้งนี้เป็นผลมาจากการประชุมทวิภาคีไทย-เมียนมา เรื่องความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดครั้งที่ 24 เมื่อ กุมภาพันธ์ 2566 ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งคณะผู้แทนเมียนมาได้แสดงความชื่นชมความสำเร็จของโครงการพัฒนาทางเลือกในพื้นที่รัฐฉาน ที่ฝ่ายไทยโดยสำนักงาน ป.ป.ส. และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องและประสงค์จะมาศึกษาดูงานจากพื้นที่ต้นแบบที่ดอยตุงที่ถือเป็น best practice ในด้านการพัฒนาทางเลือกเพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีที่ไทยและเมียนมาจะได้หารือเกี่ยวกับ
ความร่วมมือด้านการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ และทักษะ ให้แก่เจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดย เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้นำได้คณะเข้าศึกษาดูงานโครงการพัฒนาทางเลือก ณ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงราย และโครงการร้อยใจรักษ์จังหวัดเชียงใหม่ โดยม.ล. ดิศปนัดดา ดิศกุล ได้บรรยายถึงประวัติความเป็นมาของมูลนิธิฯ ซึ่งก่อตั้งโดยสมเด็จพระศรีนคริน
ทราบรมราชชนนี มีจุดมุ่งเน้นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนทางเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ของสหประชาชาติ ส่วนโครงการร้อยใจรักษ์เป็นโครงการที่มูลนิธิฯร่วมกับ สํานักงาน ป.ป.ส. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนมีรายได้และสามารถดูแลทรัพยากรธรรมชาติเพื่อเป็นต้นทุนของชุมชนในระยะยาวซึ่งจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ชุมชนไม่หันไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ อีกทั้งนำเสนอถึงความคืบหน้าของโครงการพัฒนาทางเลือกที่กำลังดำเนินการอยู่ในเมียนมา เพื่อจะเป็นผลดีต่อการขจัดปัญหายาเสพติดในทั้งสองประเทศ รวมถึงในระดับภูมิภาคและเวทีโลก
ต่อมา เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้นำคณะฯ เข้าเยี่ยมชมวิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ (วปส.) (International Narcotics Control Collage: INCC) และหอฝิ่นอุทยานแห่งชาติสามเหลี่ยมทองคำ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ วปส. โดยเลขาธิการ ป.ป.ส. เผยว่า ตนมีความตั้งใจให้ วปส. เป็นสถานที่ สนับสนุนงานด้านยาเสพติดขอภูมิภาคอย่างรอบด้านเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ผ่านการเข้าร่วมศึกษาและฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ และเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนความรู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดของนานาประเทศแบบครบวงจร เพราะปัญหายาเสพติดไม่จำกัดแต่เพียงประเทศใดประเทศหนึ่งการแก้ปัญหาต้องมาจากความร่วมมือ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง

ด้าน พลโท นี ลิน อ่อง ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ สำนักงาน ป.ป.ส. สำหรับการสนับสนุนโครงการพัฒนาทางเลือกในเมียนมา ที่ส่งผลให้ชาวเมียนมาในพื้นที่โครงการฯ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อันจะเป็นหนทางแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ยั่งยืน พร้อมสนับสนุน วปส. ให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้วิจัยและฝึกอบรม
“ขอบคุณสำนักงาน ป.ป.ส และตำรวจภูธรภาค 5 ที่จัดการศึกษาดูงานฯให้แก่คณะผู้แทนเมียนมาในครั้งนี้โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างไทยและเมียนมาจะนำไปสู่การยุติเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำได้อย่างสมบูรณ์” พลโท นี ลิน อ่อง กล่าว
#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #thaitabloid

