พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ได้รับเชิญให้ไปเยือนประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส อีกทั้งยังได้ขึ้นปกนิตยสารไทม์ (Time) ฉบับวันที่ 2 กรกฎาคม 2018 สะท้อนถึงการยอมรับ พล.อ.ประยุทธ์ ของต่างประเทศหรือไม่ ว่า ตนไม่อยากวิเคราะห์ เพราะอาจถูกกล่าวหาว่าเข้าข้างตัวเอง แต่ขอให้ดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ คสช.เข้ามา สังเกตอาการของต่างประเทศได้ว่าค่อนข้างเฉยๆกับเรา แต่ปัจจุบันตนเห็นว่าอากัปกิริยาจากต่างประเทศแตกต่างออกไป เขาปฏิบัติต่อรัฐบาลไทยเฉกเช่นเพื่อนสมาชิกด้วยกัน ยอมรับให้ไทยเป็นผู้นำในภาคส่วนต่างๆของการประชุม เช่น รับรองให้ไทยเป็นประธานกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นสมาชิกสหประชาชาติ (จี 77) ในปี 2559 รวมถึงจะได้เป็นประธานอาเซียนในปี 2562
“โดยเนื้อแท้แล้ววิธีการเข้ามาของรัฐบาลนี้เท่านั้นที่คนอื่นรู้สึกติดใจ แต่เราก็ชี้แจงแล้วว่าเป็นเพราะเหตุจำเป็นจริงๆ เมื่อครั้งเหตุการณ์ปี 2557 ไม่ใช่อยู่ดีๆหุนหันพลันแล่นแล้วมายึดอำนาจ แต่ได้ทอดเวลากว่า 6-7 เดือน ทุกคนเห็นแล้วว่าสิ่งที่อยู่ในครรลองไม่สามารถแก้ปัญหาได้ นี่จึงเป็นวิธีเดียวเท่านั้น และวันนี้นายกฯก็ย้ำหลายครั้งแล้วว่าเรากำลังจะเดินไปสู่การเลือกตั้งประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ที่สำคัญที่สุดคือ วิธีการปฏิบัติของรัฐบาลนี้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและดูแลพี่น้องประชาชน ไม่มีอะไรเลยที่ผิดหลักธรรมาภิบาล หรือทำลายกลไกตลาด หรือเสียวินัยการเงินคลัง ทุกอย่างมีตัวเลขที่ดีขึ้นทั้งหมด” พล.ท.สรรเสริญกล่าว
เมื่อถามว่า ขณะเดียวกันไทม์ชี้ว่าอนาคตของไทยยังมืดมัว เพราะยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น การจับกุมผู้ชุมนุม การตัดสินคดีในศาลทหาร พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นมุมมองของเขา เขาวิพากษ์ได้ แต่ในมุมของคนไทย ต้องไปถามว่าคนไทยส่วนใหญ่คิดอย่างไรกับการชุมนุมที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ มันมีนัยยะแอบแฝงอยู่ ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจการทำงานของรัฐบาลนี้ เขาออกมาแล้ว ไม่มีทางอยู่ได้ แต่การเคลื่อนไหวที่ผ่านมามาจากกลุ่มหน้าเดิม พอเห็นหน้าก็รู้ว่าอะไร
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า ตนกลับมองว่ารัฐบาลนี้ตั้งใจที่จะดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน เช่น การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวโดยให้มีการจดทะเบียนพิสูจน์สัญชาติ รวมถึงดูแลสิทธิสวัสดิการของการเป็นแรงงานตามหลักสากล หรือเรื่องกองทุนยุติธรรมที่ทำให้คนที่มีเงินน้อยสามารถต่อสู้คดีความได้ เหล่านี้ต่างหากที่เป็นการเคารพสิทธิมนุษยชน
“การเคลื่อนไหวต้องการให้มีการเลือกตั้ง เขาก็บอกอยู่แล้วว่าจะให้มีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ถ้าอนุญาตให้เลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ จะทำได้หรือ ทำไม่ได้ เพราะกลไกกระบวนการยังไม่พร้อม และเรื่องสิทธิมนุษยชนต้องแยกให้ออกกับการเคารพกฎหมาย สิทธิมนุษยชนอยู่บนพื้นฐานของการเคารพกฎหมาย ไม่ใช่เอาสิ่งที่ตัวเองอยากทำโดยไม่สนใจกฎหมาย” พล.ท.สรรเสริญกล่าว