17 ปี จักรวาลอำนาจการเมือง ยังคงโคจรรอบ”ทักษิณ”

ที่จั่วหัวแบบนี้เพื่อสะท้อนว่าตลอดเวลากว่า 17 ปี นับแต่นายทักษิณ ชินวัตร ถูกพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ทำรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อ 19 กันยายน 2549 ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มิได้ถูกลบออกจากวงจรอำนาจการเมืองแต่อย่างใด
ซ้ำร้ายกลายเป็นชื่อที่คู่แข่งใช้ดิสเครดิตทุกครั้ง เมื่อประเทศมีปัญหาแล้วหาทางออกไม่ได้ ชื่อทักษิณจะถูกยกขึ้นมาอ้าง ทั้งจากผู้นำประเทศเองและลิ่วล้อว่าต้นเหตุของปัญหามาจากนักโทษหนีคดี โกงบ้านโกงเมือง
ที่สำคัญห้วงในเวลานี้การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ยังสะดุดทั้งที่การเลือกตั้งผ่านเกือบ 3 เดือนแล้ว ทั้งนี้เป็นเพราะมีชื่อนายทักษิณ มาอยู่ในสมการด้วย
หากย้อนดูระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง นายทักษิณ ได้ประกาศผ่านสื่อโซเซียลว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยก่อนวันเกิด 26 กรกฎาคม ระหว่างนั้นนายทักษิณ ก็ช่วยหาเสียงทางอ้อมโดยให้เลือกเพื่อไทยแบบแลนด์สไลด์ เพื่อกู้เศรษฐกิจ
ขณะเดียวกันก็มีเสียงนินทากันว่าถ้าเพื่อไทยชนะเลือกตั้งอันดับ 1 แต่เสียงไม่เบ็ดเสร็จเกินกึ่งหนึ่ง ถ้าจะจัดตั้งรัฐบาลห้ามดึงก้าวไกลร่วมและห้ามแตะมาตรา 112 ทางกลับบ้านของนายทักษิณจะโล่ง
ถ้าสังเกตเกมระหว่างหาเสียงแกนนำเพื่อไทยจะชูสโลแกนเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ หวังยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว คือเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลและกันไม่ให้ก้าวไกลร่วมรัฐบาล โดยไม่ต้องเสียมวลชนฝ่ายประชาธิปไตย
แต่เมื่อเกมพลิกก้าวไกลกลับชนะอันดับ 1 การกลับประเทศของนายทักษิณก็ต้องกำหนดใหม่ ทางเพื่อไทยก็ปล่อยให้ก้าวไกลเดินเกมจัดตั้งรัฐบาลเต็มที่ แต่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าโอกาสสำเร็จยาก เพราะฝ่ากำแพงวุฒิสมาชิก(ส.ว.)ไม่ได้แน่นอน
เมื่อก้าวไกลวืดเพื่อไทยรับไม้ต่อ นายทักษิณ ก็เคลื่อนไหวผ่านน.ส.แพทองธาร ชินวัตร กำหนดวันเวลาเดินทางกลับอย่างชัดเจน 10 สิงหาคม เพราะคาดว่าวันที่ 4 สิงหาคม จะได้นายกรัฐมนตรีจากเพื่อไทย
แต่ก่อนถึงวันโหวตการเดินเกมจัดตั้งรัฐบาลสะดุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมืองออกมาปูดว่านายทักษิณ เลื่อนกลับไทย จนถูกบุตรสาวนายทักษิณซัดกลับว่าเพ้อเจ้อ
ในที่สุดนายทักษิณก็ประกาศเองว่าเลื่อนไปอีก 2 สัปดาห์ โดยอ้างว่าต้องพบแพทย์ตรวจสุขภาพก่อน
ขณะเดียวกันเพื่อไทยก็เดินหน้าจับมือพรรคภูมิใจไทย ระกาศตั้งรัฐบาลเริ่มต้นที่ 212 เสียง พร้อมดึงพรรคอื่นมาร่วมแบบไม่สนวาจาที่สัญญากับประชาชนไว้ โอกาสผสมพันธุ์ทางการเมืองก็สำเร็จสูง ทางกลับบ้านของนายทักษิณ คงจะไม่สะดุดอีก
หลังจากนี้คงได้ยินนายทักษิณหรือบุตรสาวประกาศกำหนดการกลับบ้านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
หากมองตามเกมของเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนอกจากหวังจะได้อำนาจแล้วก็วาระพานายทักษิณกลับบ้านซ่อนอยู่อย่างมีนัยสำคัญ นั่นหมายถึงว่าทุกจังหวะก้าวของเพื่อไทยจะมีนายทักษิณร่วมกำหนดด้ว
“ถ้าเปรียบการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้เป็นจักรวาล พรรคการเมืองและนักการเมืองล้วนแต่โคจรรอบนายทักษิณทั้งสิ้น”
ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่าตลอดระเวลา 17 ปี ที่ผ่านมา แม้จะถูกยึดอำนาจจนต้องระหกระเหินอยู่ต่างประเทศ แต่นายทักษิณ สามารถสร้างสรรค์เกมการเมืองให้พรรคของตัวเองชนะเลือกตั้งมาโดยตลอดเป็นเพราะผลงานของนายทักษิณที่สร้างไว้ เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรกก็สร้างผลงานให้คนทั้งประเทศประทับใจ สมัยที่ 2 ชาวบ้านเทเลือกได้ส.ส.ถึง 377 เสียง
“ซึ่งคงไม่มีใครปฏิเสธว่านายทักษิณคือนักการเมืองคนแรกหรือนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ผลักดันทุกนโยบายเป็นจริงได้ตามสัญญา ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคที่ชาวบ้านสามารถเข้าถึงได้แบบไม่ต้องนอนรอความตายเหมือนที่ผ่านมา กองทุนหมู่บ้านและสินค้าโอท็อป หนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลที่ทำให้ชาวรากหญ้าลืมตาอ้าปากได้ รวมถึงนโยบายปราบปรามยาเสพติดหลายครอบครัวได้บุตรหลานที่ตกเป็นทาสยากลับคืนมา”
ยิ่งนโยบายจำนำข้าวที่สโลแกนว่าทักษิณคิดเพื่อไทยทำ สมัย น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังฝังตรึงอยู่ในความทรงจำของชาวนาว่าทำนามาทั้งชีวิตได้จับเงินล้านก็เพราะทักษิณและยิ่งลักษณ์
คนของทักษิณและยิ่งลักษณ์ ก่อนถูกยึดอำนาจชาวบ้านมีเงินเต็มกระเป๋า แต่เมื่อเผด็จการทหารครองเมืองชาวบ้านกระเป๋าแฟบ แต่เผด็จการและลิ่วล้อกระเป๋าตุงกันทั่วหน้า
เมื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศยังยากจน ยิ่งเผด็จบริหารประเทศก็เกิดภาวะรวยกระจุกจนกระจาย พอการเมืองเปิดให้มีการเลือกตั้งพรรคการเมืองที่อยู่ใต้ร่มเงาของทักษิณก็มิเคยพ่ายเพราะคนส่วนใหญ่เชื่อมั่นในผลงานที่จับต้องได้ มีเพียงครั้งล่าสุดที่พ่ายแบบเฉียดฉิว แต่อำนาจการจัดการก็ยังอยู่ในมือเพื่อไทยเหมือนเดิม
จึงอย่าแปลกใจที่เกมจัดตั้งรัฐบาลจะถูกลากยาวและสะดุดในบางเวลาเพราะในบางเกมการกลับบ้านของนายทักษิณ ไม่ได้ใส่อยู่ในสมการด้วย เมื่อสมการได้บรรจุเรียบร้อยแล้ว การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทยก็คงเกิดขึ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้
ดังนั้นถ้ามองแบบวิเคราะห์ที่จั่วหัวว่า”17 ปีจักรวาลอำนาจการเมือง ยังโคจรรอบทักษิณ”ก็มิได้เกินเลยแต่อย่างใด!!!


