นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอเรียกร้องให้ ป.ป.ช.สอบจริยธรรมนายกรัฐมนตรีที่ใส่โชว์สินค้าแบรนด์เนมของนอก โดยระบุว่า ตามที่ปรากภาพนายกฯ สวมเสื้อกั๊กไหมพรม พร้อมสวมแว่นกันแดด แบบบอยแบนด์ และมีผ้าพันคอแบรนด์หลุยส์ วิตตอง ซึ่งเป็นรุ่นที่ชื่อว่า JHELAM SCARF M75362 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2014 ซึ่งทำจากผ้าแคชเมียร์ สนนราคาอยู่ที่ 22,600 บาท เป็นผ้าพันคอรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่ง ขณะกำลังเดินชมสวนบริเวณโรงแรมที่พักด้วยอริยาบทผ่อนคลาย ภายหลังการเข้าพบนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ณ บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวน์นิงจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมเป็นอย่างมากนั้น
พฤติการณ์ดังกล่าวของนายกรัฐมนตรี ถือได้ว่าเข้าลักษณะ “ปากว่าตาขยิบ” เป็นการกระทำที่ขัดต่อค่านิยมหลัก 12 ประการของตนที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเมื่อ 13 กันยายน 2557 โดยตรงที่ว่า “รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” “มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และถือว่าไม่รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยที่งดงามด้วย ซึ่งถือได้ว่า “เป็นการกระทําที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรี” และ “ไม่ยึดถือผลประโยชน์ของชาติเหนือกว่าผลประโยชน์ส่วนตน” อันขัดหรือแย้งต่อ ข้อ 7 และข้อ 17 ตาม “มาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561” ที่ประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 30 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา อีกทั้งเป็นการกระทำที่เข้าข่ายขัดต่อมาตรา 160(5) ของรัฐธรรมนูญ 2560 โดยชัดแจ้งที่บัญญัติว่ารัฐมนตรีต้อง “ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง” ด้วย
ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงขอเรียกร้องให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ใช้อำนาจตามมาตรา 19(7) แห่ง พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นเพื่อส่งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไปด้วย
นอกจากนั้นสมาคมฯใคร่ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีทบทวนการใช้ชื่อ “ศาสตร์พระราชา” ในรายการนายกรัฐมนตรีพบประชาชนทุกค่ำคืนวันศุกร์ด้วย เนื่องจากพฤติการณ์ดังกล่าวอาจขัดหรือแย้งต่อศาสตร์พระราชาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านโดยชัดแจ้งด้วย