นายบุญเลิศ ไพรินทร์ อดีตสมาชิกวุฒิสภาและอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เจ้าของฉายา ‘โหรส.ว.’ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค กล่าวถึงความตกต่ำของราคาสินค้าเกษตร โดยระบุว่า “ผมเห็นน้ำตาคนปลูกสับประรดเพราะราคาถูกอย่างน่าใจหายแล้ว ผมเศร้าใจเป็นที่ยิ่งนัก
แทนที่จะเป็นรัฐบาล คสช เป็นคนเช็ดน้ำตาให้กับคนปลูกสับประรด กลับกลายเป็นหลวงพ่อที่ทนดูความทุกข์ของพวกเขาไม่ได้ จึงเข้ามารับซื้อสับประรดเสียเอง ทั้งๆที่ท่านมีเงินสักกี่มากน้อยเพียงใดเมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาล คสช
ที่มีเงินงบประมาณในมือจำนวนมากมายมหาศาล
แทนที่รัฐบาล คสช จะช่วยพยุงราคาสับประรดและสินค้าทางการเกษตรที่สำคัญๆ เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา อ้อย ปาล์ม สับประรด เป็นต้น
รัฐบาล คสช กลับเลือกใช้วิธีการช่วยเหลือในรูปของสวัสดิการคนจนโดยถ้วนหน้า นั่นก็คือพยายามยัดเยียดให้เกษตรกรที่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งที่ชัดเจนที่ยากจนเพราะราคาสินค้าเกษตรกรรมตกต่ำอย่างรุนแรงซึ่งแตกต่างจากคนจนที่ตกงานหรือที่ไร้อาชีพหรือพิการหรือไร้สมรรถภาพอย่างมาก
การยัดเยียดให้เกษตรกรเป็นคนจนถาวรที่มีสิทธิในการรับเบี้ยยังชีพเหมือนคนไร้อาชีพหรือคนตกงานหรือคนพิการหรือคนไร้สมรรถภาพ เป็นความไร้เดียงสาทั้งทางเศรษฐกิจและลักษณะของรัฐสวัสดิการแทบจะโดยสิ้นเชิงทีเดียว
ผมเจ็บใจรัฐบาล คสช อย่างมากที่บริหารการเกษตรของประเทศล้มเหลวโดยสิ้นเชิง อันมีผลทำให้เกษตรกรทุกสาขาอาชีพโกรธแค้นและเกลียดชังรัฐบาลนี้อย่างมาก ความล้มเหลวของรัฐบาล คสช ได้ผลักเกษตรกรทุกสาขาอาชีพไปสนับสนุนฝ่ายตรงกันข้ามของตัวเองจนหมดจนสิ้น
ส่วนกลุ่มชาวนาจัดตั้งที่มาสนับสนุนรัฐบาล คสช มีแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น
พรรคการเมืองใดที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลนี้จะหาเสียงได้ง่ายกว่าพรรคที่แสดงตัวตนว่าเป็นพวกเดียวกับรัฐบาล คสช คงจะหาเสียงกับเกษตรกรได้ยากอย่างยิ่งทีเดียว
ส่วนพรรคการเมืองต่างๆที่ไม่เอารัฐบาลก็ต้องมาแข่งกันกำหนดนโยบายด้านการผลิต การแปรรูป การค้าและราคาผลิตผลทางการเกษตรอย่างไรให้โดนใจเกษตรกรสาขาต่างๆและไม่ขัดต่อกฎหมายอีกด้วย
นี่คือโจทย์ใหญ่ที่พรรคใดหรือใครจะสามารถตอบโจทย์ได้ดีกว่ากันในอันที่จะครองใจเกษตรกรสาขาต่างๆได้ดีกว่าและมากกว่ากันนั่นเองครับ
ผมเห็นน้ำตาคนปลูกสับประรดเพราะราคาถูกอย่างน่าใจหายแล้ว ผมเศร้าใจเป็นที่ยิ่งนักแทนที่จะเป็นรัฐบาล คสช…
โพสต์โดย Boonlert Pairindra เมื่อ วันอังคารที่ 19 มิถุนายน 2018