ก.ล.ต.แจ้งจับขบวนการปั่นหุ้นมอร์อีก 32 ราย สร้างความเสียหาย 800 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เวลา 16.30 น.นายธวัชชัย พิทยโสภณ รักษาการ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมด้วย นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ, นางพัฒนพร ไตรพิพัฒน์ ผู้ช่วย เลขาธิการและคณะเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกลุ่มบุคคลรวม 32 ราย ในฐานะตัวการร่วม กรณีการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2565 อันทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ MORE ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 244/3 (1) ประกอบบทสันนิษฐานของมาตรา 244/5 และมาตรา 244/6 แห่ง พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ประกอบมาตรา 83 แห่ง
ประมวลฎหมายอาญา
นายธวัชชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ทาง
ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบการกระทำความผิดเพิ่มเติม เกี่ยวกับการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขาย
หลักทรัพย์ MORE และพบข้อเท็จจริงรวมถึงพยานหลักฐานที่สนับสนุนให้เชื่อได้ว่า กลุ่มบุคคลรวม 32 ราย
ได้ร่วมกันกระทำการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในช่วงระหว่างวันที่ 18 ก.ค.65 – 10 พ.ย.65 โดยบุคคลทั้ง 32 รายดังกล่าวข้างต้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มีการแบ่งหน้าที่กันหรือตกลงร่วมกันในการส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ รวมทั้งส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกันโดยมุ่งหมายให้ราคา หรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด อันเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 244/3 (1) และ (2)
ประกอบมาตรา 244/5 และมาตรา 244/6 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยผลประโยชน์ที่กลุ่มผู้กระทำความผิด ทั้งหมดได้รับ ดเป็นมูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 32 ราย ต่อ
บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ด้าน นายเอนก กล่าวว่า พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้รายงานการดำเนินการดังกล่าวต่อ ปปง. เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป เนื่องจากความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มตันของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญา
เท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิตกฎหมายเป็นชั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรมตามลำคับ ในกรณีนี้ ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมโดยประสานความร่วมมือกับ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บซ.ก) โดย บก.ปอศ. ในการตรวจสอบรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายในการทำงานเชิงรุกร่วมกันในการสืบสวนและตรวจสอบการกระทำผิดเกี่ยวกับตลาดทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย
ส่วน พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ทาง ก.ล.ต.ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ถือหุ้น ผู้ซื้อ ผู้ขาย หุ้นมอร์ หลังขยายผลทราบว่ามีผู้เกี่ยวข้องในคดีเพิ่มเติมรวม 32 ราย ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะนำเรื่องเข้าประชุมในคณะพนักงานสอบสวน ก่อนเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ สื่อออนไลน์ ที่ยึดถือจรรยาบรรณครบถ้วน