เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2566 เฟสบุคนายบุญเลิศ คชายุทธเดช อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2540 ได้โพสน์ข้อความผ่านเฟสบุค ใจความระบุว่า “เพื่อให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ขอเสนอทฤษฎีการฟอร์มรัฐบาล การเลือกนายกฯเรียกว่า “แพ็คคู่ two ทูอินวัน (two-in-one)” หมายถึง
- พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยต้องกระชับจับมือกันอย่างจริงใจ เดินหน้าตามเอ็มโอยู ที่ทำร่วมกัน 8 พรรค หนุนส่งให้่นายพิธาได้เป็นนายกฯ โดยทั้ง 2 พรรคนี้ดำเนินการประหนึ่งเป็นพรรคเดียว กัน ผูกติดอยู่ด้วยกันเป็นคู่ เป็น 2 พรรคในหนึ่งเดียว ตรงกับคำพูดที่ว่า แพ็คคู่ ทูอินวัน
- แพ็คคู่ ทูอินวัน ทั้ง 2 พรรค มีสถานะเท่าเทียมกัน ไม่ถือว่าพรรคก้าวไกลใหญ่กว่า ดีกว่า หรือเหนือกว่าพรรคเพื่อไทย แต่ถือว่าเสมอกัน เนื่่องจาก พรรคก้าวไกลได้ 151 เสียง พรรคเพื่อไทยได้ 141 (ห่างกันเพียง 10 เสียง) ไม่แตกต่างกันมาก
- การเจรจาต่อรองทางการเมืองเพื่อตั้งรัฐบาลแพ็คคู่ ทูอินวัน ด่านแรก เมื่อพิธาได้เป็ํนนายกฯ ประธานสภาผู้แทน(ประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง) ก็ควรเป็นของพรรคเพื่อไทย เพื่ีอความเป็นธรรมและความเหมาะสม เมื่อแพ็คคู่กันแล้ว พรรคก้าวไกลไม่ควรอ้างว่า ตัวเองพรรคเสียงข้างมาก ใหญ่กว่า เหนือกว่าพรรคเพื่อไทย ควรได้ทั้ังตำแหน่งนายกฯ และประธานสภาฯ แต่ควรให้เกียรติพรรคเพื่อไทย เพราะเราต้องไปด้วยกัน แยกกันไม่ได้ การเจรจาต้องประนีประนอมอำนาจ ไม่ทำให้อีกพรรครู้สึกว่ีาถูกเอาเปรียบ นายพิธาต้องปรับท่าทีให้เป็นประหนึ่งว่า ก้าวไกลกับเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวกัน อยู่ในบ้านเดียวกัน พูดคุยกันรู้เรื่อง
- นายพิธา และหมอชลน่าน ศรีแก้ว ต้องรีบคุยกันในวันนี้หรือพรุ่งนี้ แล้วสรุปว่าพรรคก้าวไกลยอมให้เก้าอี้ประธานสภาฯกับพรรคเพื่อไทย จากนั้น จะร่วมกันทำนโยบายหลักๆภายใต้ทิศทางเอ็มโอยู พร้อมๆไปกับการแบ่งกระทรวงกันรับผิดชอบ และมีบางตำแหน่งให้พรรคเล็กที่ร่วมทำข้อตกลงร่วม พร้อม กันนั้นทุกพรรคจะเดินหน้าหาเสียงสนับสนุนจากส.ว.และส.ส.มาเติม ถ้าไม่ดำเนินการตามนี้ ปล่อยให้ทะเลาะหน้าสื่อเป็นรายวันเรื่องแย่งตำแหน่งประธานสภาฯ และต่อไปจะทะเลาะเรื่องนโยบายและการแบ่งกระทรวง สุดท้ายนายพิธาจะไม่ได้เป็นนายกฯเพราะหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.และส.ส.ขั้่วอนุรักษ์นิยมรวมแล้วไม่ถึง 376 ถึงตอนนั้นพรรคเพื่อไทยอาจไม่ร่วมกับนายพิธา พรรคก้าวไกลแล้ว
- สถานการณ์เฉพาะหน้า นายพิธาต้องปรับตัวโดยฉับพลัน เพื่อแก้วิกฤตความกินแหนงแคลงใจกับพรรคเพื่อไทย ต้องยอมโน้มตัวลงบ้างในฐานะที่อาวุโสน้อยกว่า จะต้องขอโทษขอโพยหรือไม่ก็สุดแต่จะพิจารณาหันหน้ามาปรับความเข้าใจ ใช้ทฤษฎีแพ็คคู่ ทูอินวัน
หากนายพิธาและพรรคก้าวไกลถือตัวว่า ทำเช่นนั้นไม่ได้ เพราะจะเสียเกียรติเสียศักดิ์ศรีในฐานะพรรคที่ได้เสียงมากอันดับ 1 และพร้อมจะเป็นฝ่ายค้านหากพรรคเพื่อไทยจะไม่ีร่วมตั้งรัฐบาลด้วยก็เป็นเรื่องที่นายพิธาและพรรคก้าวไกลจะตัดสินใจ ซึ่งใครก็ํช่วยไม่ได้
“ข้อความบนเฟสบุคดังกล่าวระบุ”
ลิงค์