หน้าแรกการเมือง"กลุ่มศปปส."บุกยื่นหนังสือสถานทูตอเมริกาฯต้านนโยบายพรรคก้าวไกล

“กลุ่มศปปส.”บุกยื่นหนังสือสถานทูตอเมริกาฯต้านนโยบายพรรคก้าวไกล

“กลุ่มศปปส.” นำทีม กระทิงแดงไทยพิทักษ์ นักรบเลือดสีน้ำเงินปกป้องราชบัลลังก์ องค์กรและภาคประชาชนสากลเพื่อการปกป้องประเทศไทย บุกยื่นหนังสือ ต้านนโบบายพรรคก้าวไกล

เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2566 (เวลา 12.50น.) ที่ สอท.สหรัฐฯ ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์ รายงานว่า กลุ่ม ศปปส.ตัวแทนกลุ่มฯ 3 คน นำโดยนายอานนท์ กลิ่นแก้วเข้าไปยื่นหนังสือต่อตัวแทน สอท.สหรัฐฯ จากนั้นได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน กล่าวว่า จากการที่ได้เข้าไปพูดคุยและยื่นหนังสือต่อตัวแทนสอท.สหรัฐฯ

ทางตัวแทน สอท.สหรัฐฯ มีความเข้าใจชัดเจนดีว่าประชาชนคนไทยมีความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทางสหรัฐฯก็เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ของคนไทยเช่นเดียวกัน และกล่าวยืนยันว่าทางสหรัฐฯ ไม่มีการแทรกแซงกิจการใดๆภายในประเทศไทย ไม่ว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล ทาง สอท.สหรัฐฯ มีความยินดีและพร้อมปฏิบัติงานร่วมกัน

โดยหลังจากนี้ทางกลุ่มฯจะมีการติดตามความเคลื่อนไหวของประเทศสหรัฐฯ เป็นระยะ หากมีข้อมูลว่ามีการเข้ามาแทรกแซง กลุ่มฯจะออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง ต่อมา 13.20 นภายหลังยื่นหนังสือและให้สัมภาษณ์สื่อเสร็จสิ้น กลุ่มฯร่วมกันร้องเพลง สรรเสริญพระบารมี จากนั้นยุติกิจกรรม แยกย้ายเดินทางกลับ- ยอด 20 คน

สำหรับหนังสือที่กลุ่มดังกล่าวได้ยื่น ต่อ สอท.สหรัฐฯมีใจความระบุว่า ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน(ศปปส.) / กระทิงแดงไทยพิทักษ์ นักรบเลือดสีนํา้ เงินปกป้องราชบัลลังก์ / องค์กรและภาคประชาชนสากลเพื่อการปกป้องประเทศไทย วันที่ 24 พฤษภาคม 2566
ศปปส.24/05/2566


เรื่อง แทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย และ บั่นทอน 3 สถาบันหลักของชาติ (Interfere in the internal affairs of Thailand and undermine the 3 main institutions of the nation.)


เรียน Mr.Robert F.Godec เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจําประเทศไทย (Ambassador of the United States of America to Thailand)​

เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ประเทศไทยที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้จัดการเลือกตั้งขึ้นในราชอาณาจักรและนอกราชอาณาจักร โดยมีตัวแทน จากประเทศต่างๆและองค์กรต่างๆเข้าร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งตามหลักสากลแล้วจะแค่ร่วมสังเกตการณ์เท่านั้น ด้วยมารยาทจะไม่มีการเข้ามาแทรกแซงในกิจการภายในของประเทศนั้นๆ ตามลิงค์ด้านล่างนี้
https://tlhr2014.com/archives/55940
ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร Ms.Susan Wild ได้เสนอร่างมติสภาผู้แทนราษฎร 369 (H.Res.369) เข้าไป

เมื่อวันที่5พฤษภาคม2566 ที่สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา และทางศปปส.ได้ทราบในเวลาต่อมาว่า ร่างมติดังกล่าวได้ถูกส่งต่อไปให้คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ (Committee on Foreign Affairs) พิจารณาก่อนที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะทําการลงคะแนนออกเสียง ซึ่งข้อ 5 ของร่างมติเรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยและยุติการดําเนินคดีกับนักกิจกรรมทางการเมือง โดยเฉพาะ เด็ก และนักเรียน เว้นจากการข่มขู่ คุกคาม หรือฟ้องดําเนินคดีผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมโดยสงบและกิจกรรมทางพลเมืองโดยทั่วไป และในข้อ 8 ของร่างมติดังกล่าว ได้มีการเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ไขกฎหมายที่จํากัดสิทธิ เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การเลือกตั้ง

ยกตัวอย่างเช่น มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และ กฎหมายเกี่ยวกับยุยงปลุกปั่นร่างมติที่นําเสนอโดย Ms.Susan Wild ดังกล่าวยังระบุอย่างชัดแจ้งว่า หากมีการแทรกแซงโดยกองทัพหรือสถาบันกษัตริย์ก่อน ระหว่าง หรือหลังการเลือกตั้งทั่วไป ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม จะกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่าง สหรัฐฯ และประเทศไทย และคุกคามการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแก่ประเทศไทย และความร่วมมือระดับภูมิภาคและทางเศรษฐกิจ

อนึ่ง ประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเป็นประเทศ เป็นราชอาณาจักรที่มีเอกราชมายาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และไม่เคยเป็นเมืองขึ้นหรือเป็น เมืองประเทศราชของประเทศใดๆ มีเสาหลักของประเทศคือ 3 สถาบันหลักของชาตินั่นคือ สถาบันชาติ สถาบันศาสนา และ สถาบันพระมหากษัตริย์ และมีกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครอง ประเทศ มีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรมเป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทางศูนย์รวม ประชาชนปกป้องสถาบันและกลุ่มภาคีปกป้องสถาบันต่างๆอาทิ กลุ่มกระทิงแดงไทยพิทักษ์ กล่มอาชีวะ ปกป้องสถาบัน กลุ่มนักรบเลือดสีน้ําเงินปกป้องราชบัลลังก์ ฯลฯ จะไม่ยอมให้กลุ่มหนึ่งกลุ่มใดหรือประเทศ หนึ่งประเทศใด มาทําลายอธิปไตยและหรือมาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยเด็ดขาด โดยเฉพาะ เรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ จากร่างมติข้อที่ 5 ของ Ms.Susan Wild เน้ือหาในข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็น

การบิดเบือนสถานการณ์ของประเทศไทยในช่วงระหว่างพ.ศ.2563 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในช่วงเวลา ดังกล่าวมีการจัดการชุมนุมหรือม็อบต่อต้านและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งม็อบดังกล่าวไม่ได้ชุมนุม อย่างสงบอย่างท่ีถูกกล่าวอ้าง อีกท้ังผู้ชุมนุมและแกนนํายังถูกจับกุมดําเนินคดีในข้อหาต่างๆ โดยเฉพาะข้อหา มาตรา 112 ซึ่งไม่ใช่คดีทางการเมืองอย่างที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร Ms.Susan Wild ได้กล่าวอ้างไว้ในร่าง มติดังกล่าวแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นไม่ใช่คดีทางการเมืองแต่เป็นคดีที่เป็นความผิดต่อความมั่นคงของชาติ เป็น ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ซ่ึงทรงเป็นประมุขของชาติ อีกทั้ง Mr.Robert F.Godec เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจําประเทศไทย (ผู้ซึ่งมี เลื่องลือมานานจากผลงานในอดีตซึ่งเคยประจําการอยู่ประเทศแถบแอฟริกาอย่างตูนิเซียและเคนย่า ซึ่งคนใน พื้นที่มักจะได้เห็นทูตโกเดคแสดงความคิดเห็นวิจารณ์การเมืองในประเทศที่ตนเองดูแลอยู่เป็นประจํา โดยเฉพาะในประเด็นประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง) ยังได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 โดย มีใจความดังนี้ “ประชาชนหลายสิบล้านคนได้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งทั่วราชอาณาจักรไทย ในฐานะผู้ สังเกตการณ์การเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ประจําหน่วยเลือกตั้ง สื่อมวลชน ผู้สมัครรับเลือกตั้ง

และที่สําคัญที่สุดกิตติศัพท์เป็นที่ผู้ใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง สหรัฐอเมริกาในฐานะเพื่อนและพันธมิตรที่ยาวนานของไทย ตั้งตารอที่จะได้ ทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ” กฏหมายการเลือกตั้งของประเทศไทยมีกรอบระยะเวลาที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ECT) กําหนดไว้อยู่แล้ว ซึ่งทุกประเทศรวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วยต้องเคารพในกตกิ า และมารยาทของประเทศนั้นๆด้วย และยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรไม่ได้เป็นเมืองประเทศราช

หรือเป็นเมืองขึ้นของชาติใดๆ การแถลงการณ์ดังกล่าวของ Mr.Robert F.Godec เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจําประเทศไทย (ฝ่ายบริหารของสหรัฐอเมริกา) และ ร่างมติสภาผู้แทนราษฎร 369 (H.Res.369) ของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร Ms.Susan Wild (ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐอเมริกา) และ Christopher Kelland เลขนุการโท ที่สร้างสถานการณ์ให้ประเทศไทยขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งถือว่าเข้าข่ายการแทรกแซง กิจการภายในของประเทศไทยในลักษณะก้าวก่าย,ครอบงําและกดดันให้ประเทศไทยทําตามที่สหรัฐอเมริกาต้องการให้เป็น ซึ่งระเบียบและกฎเกณฑ์กติกามีการระบุไว้ชัดเจนว่านักการทูตไม่สามารถสอดแทรกกิจการ ภายในรัฐนั้นได้ เพราะแต่ละประเทศต่างมีอํานาจอธิปไตยเป็นของตนเองและเป็นการละเมิดอนุสัญญากรุง เวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต 1961 มาตรา 41

ดังนั้นทางศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กลุ่มกระทิงแดงไทยพิทักษ์ และ กลุ่มนักรบเลือดสี น้ําเงินปกป้องราชบัลลังก์ จึงขอเป็นตัวแทนของประชาชนคนไทยที่รักและหวงแหนใน 3 สถาบันหลักของชาติ อันประกอบไปด้วย 1.สถาบันชาติ 2.สถาบันศาสนา 3.สถาบันพระมหากษัตริย์ เข้ายื่นหนังสือถึง Mr.Robert F.Godec เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจําประเทศไทย เพื่อทบทวนบทบาทและหน้าที่รวมถึงมารยาทของนักการทูตซึ่งควรเคารพในความเป็น “ หนังสื่อฉบับด้งกล่าวระบุ”

#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ สื่อออนไลน์ ที่ยึดถือจรรยาบรรณครบถ้วน

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img