ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ชี้แจงข้อเท็จกรณีการออกหมายจับและการควบคุมตัวเยาวชนวัย 15ปี ส่งสถานพินิจ คุ้มครองเด็กและเยาวชน บ้านปรานี
เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์ รายงานว่า ตามที่เด็กหญิง ธ. ได้ถูกดาเนินคดีต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 112,368 และพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4 และมีการสื่อในสังคมออนไลน์กล่าวถึงการใช้ดุลพินิจของศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในการออกหมายจับและการควบคุมตัวเด็กหญิง ธ. ว่ากระทำไปโดยไม่ชอบนั้น
ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบดังต่อไปนี้เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอ ออกหมายจับ เด็กหญิง ธ. ต่อศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง โดยอ้างว่าเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ให้เด็กหญิง ธ. มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 นาฬิกา แต่เด็กหญิง ธ. ไม่ไปพบตามหมายเรียกและไม่แจ้งเหตุขัดข้อง
พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ให้เด็กหญิง ธ. ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 นาฬิกา
โดยในครั้งนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TLHR) ได้มีหนังสือ เรื่อง ขอแจ้ง เหตุขัดข้องไม่อาจมาพบพนักงานสอบสวนได้ โดยให้เหตุผลว่า เด็กหญิง ธ. อยู่ระหว่างการเตรียมและสอบวัดผล ปลายภาคเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต่อเนื่องรายงานตัวเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทำให้ไม่สามารถไปพบพนักงานสอบสวนได้ และขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 9 เมษายน 2566 เวลา 10.00.นาฬิกา แต่กลับปรากฏว่าหลังจากขอเลื่อนเพียง 3 วัน คือ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 15 นาฬิกา เด็กหญิง ธ. ได้ไปทากิจกรรมบริเวณหน้าสานักงานองค์การสหประชาชาติ
อันแสดงให้ เห็นว่าการขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนในครั้งที่ 2 เป็นการประวิงเวลา ศาลพิจารณาตามประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 และพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณา คดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 67 แล้ว เห็นว่ากรณีมีเหตุให้ออกหมายจับ จึงอนุญาตให้ออก หมายจับเด็กหญิง ธ. ตามขอ อันเป็นการออกหมายจับโดยชอบเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 เด็กหญิง ธ. ถูกเจ้าพนักงานตารวจจับกุมและถูกควบคุมตัวมายัง ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ศาลได้ตรวจสอบการจับตามพระราชบัญญัติ ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 73
โดยศาลตั้ง ที่ปรึกษากฎหมายแก่เด็กหญิง ธ. แม้เด็กหญิง ธ. ปฏิเสธการลงลายมือชื่อในใบแต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมาย แต่ถือว่า ศาลได้ตั้งที่ปรึกษากฎหมายให้ตามกฎหมายแล้ว และเห็นว่า การจับและปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนเป็นไปโดยชอบ ด้วยกฎหมาย ในวันตรวจสอบการจับ เด็กหญิง ธ. ไม่มีบิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การ ซึ่งเด็กอาศัยอยู่ด้วยมาศาล คงมีเพียงนาย ส. แถลงต่อศาลว่าเป็นคนรู้จักกับเด็กหญิง ธ. และเป็นบุคคลที่เด็กหญิง ธ. ไว้วางใจและมาทาหน้าที่เป็นผู้ปกครองชั่วคราว เนื่องจากมารดาของ เด็กหญิง ธ. เจ็บป่วยไม่สามารถมาศาลในวันดังกล่าว
จึงเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดเจนว่าเด็กหญิง ธ. อยู่ในความปกครองของมารดา ไม่ปรากฏว่านาย ส. เป็นผู้ปกครองตามกฎหมายหรือเป็นบุคคล ทเี่ด็กหญิงธ.อาศัยอยู่ด้วยศาลย่อมไม่อาจมอบตัวเด็กหญิงธ.ให้แก่บิดามารดาผู้ปกครองบุคคลซึ่งเด็กหญิงธ. อาศัยอยู่ด้วยตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว มาตรา 73 ได้ ศาลจึงมีคาสั่งให้ส่งเด็กหญิง ธ. ไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน บ้านปรานี ข้อเท็จจริงยังปรากฏ ต่อมาว่า นับตั้งแต่วันตรวจจับจนถึงปัจจุบันนี้ มารดาของเด็กหญิง ธ. ไม่เคยมาศาล เพื่อติดต่อขอรับตัว เด็กหญิง ธ. ไปดูแล ทั้งยังไม่มีบุคคลใดมายื่นคาร้องขอปล่อยตัวเด็กหญิง ธ. ชั่วคราว การควบคุมตัวเด็กหญิง ธ. จึงเป็นไปโดยชอบ
อนึ่ง เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเด็กหรือเยาวชน คดีนี้บิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การ ซึ่งเด็กหญิง ธ. อาศัยอยู่ด้วยสามารถมาแสดงตนขอรับตัวเด็กหญิง ธ. ไปอยู่ในความดูแลตามพระราชบัญญัติ ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 73 นอกจากนี้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กหญิง ธ. ก็มีสิทธิยื่นคาร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเด็กหญิง ธ. ได้ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความมาตรา 106
“สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ สื่ออนใลน์ที่”ยึดถือจรรยาบรรณครบถ้วน”