ผู้การฯสืบ บช.น. นำทีมลุยปิดฉากแก๊งมาม่าซัง ฉากหน้า ร้านนวด ฉากหลังเป็น “โรงชำแหละ” รถเถื่อน ธุรกิจครอบครัว ยาย-แม่-ลูกเขย-หลานสาว
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2566 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 ,จากการจับกุม “เซเลบเก๊” ที่ตะเวนก่อเหตุ “นัดเดท” ผ่านแอ็พหาคู่ แล้วขโมยรถเหล่าหญิงสาวที่เป็นคู่หลับนอน นำมาสู่การขยายผลเจอ “แก๊งมาม่าซัง” นักชำแหละรถรายใหญ่ ซึ่งมีมาม่าซัง “สายมู” เป็นหัวหน้าเครือข่าย ใช้ร้านนวดเป็นฉากหน้า โดยฉากหลังเป็นโรงชำแหละรถแบบครบวงจร ซึ่งมีรถเข้ามาไม่น้อยกว่า 5 คันต่อสัปดาห์
ซึ่งล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายกว่า 4 ราย และบุกทลายโรงชำแหละนี้ ตรวจยึดรถที่รอ “ขึ้นเขียง” อยู่อีกจำนวน 10 คัน ไว้ได้ทันท่วงที แต่ก็เป็นที่น่าสลด ผู้เสียหายรายหนึ่ง ติดตามเจ้าหน้าที่มากับเจ้าหน้าที่หวังได้รถคืนสุดท้ายเหลือเพียง “ซาก” แต่อย่างไรก็มีโมเม้นดีดี สวมกอด ขอบคุณเจ้าหน้าที่เพราะเห็นถึงความพยายาม เรียกได้ว่า ชุดสืบสวนชุดนี้ “ขุดไม่เลิก” โดยหลังการจับกุม ผู้การจ๋อ ลั่นกลองส่งสาส์นท้ารบถึงแก๊งซื้อขายรถเถื่อนว่า “ถ้าไม่เลิกทำได้เจอกันแน่”
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. / รอง หน. PCT ชุดที่ 5 , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ณรงฤทธิ์ ทองแพ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ประภาส เเก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ธีวร์ราธิป ชูดวง สว.กก.สส.1 ฯ ปฏิบัติราชการ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ศราวุฒิ พิมพ์สุภาพร สว.กก.สส.4 ฯ ปฏิบัติราชการ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 , ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) , นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัวสองสามีภรรยาซึ่งเป็น “หัวหน้า” เครือข่ายคือ
1.นางสมนึก ขุนทอง อายุ 65 ปี (มาม่าซัง) อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.3 ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จว.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1339/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66
2.น.ส.กนกวรรณ ขุนทอง อายุ 41 ปี (ลูกสาว) อยู่บ้านเลขที่ 14 ซ.นนทบุรี 6 แยก 6/2 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จว.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1338/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66
3.น.ส.นฤมล สังขนัครา อายุ 19 ปี (หลานสาวซึ่งเป็น steammer game online สายเซ็กซี่) อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.3 ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จว.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1337/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66
4.นาย รุ้ง ศรีบุญเพ็ง อายุ 47 ปี (ลูกเขย) อยู่บ้านเลขที่ 763/8 ม.19 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จว.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1340/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66
โดยถูกกล่าวหาว่า “ร่วมกันรับของโจรอันเป็นการค้ากำไร”
โดยจับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 95 ม.3 ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จว.ราชบุรี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 20.20 น.
ตรวจยึดของกลางจำนวน 12 รายการ ดังนี้
- รถยนต์ ยี่ห้อ Toyota รุ่น Yaris ติดป้ายแผ่นทะเบียน 7042 ฉะเชิงเทรา
- รถยนต์ยี่ห้อ Mitsubishi รุ่น Mirage ติดป้ายแผ่นทะเบียน กว 7159 นครสวรรค์
- รถยนต์ยี่ห้อ Toyota รุ่น Fortuner ติดป้ายแผ่นทะเบียน ขฉ 5190 กรุงเทพมหานคร
- รถยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น City ติดป้ายแผ่นทะเบียน ขห 2489 เชียงใหม่
5 รถยนต์ยี่ห้อ mazda 3 ติดป้ายแผ่นทะเบียน ศอ5206 กรุงเทพมหานคร
โดยของกลางลำดับที่ 1-5 ตรวจยึดได้ ณ บ้านเลขที่ 29/2 ม.6 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตามหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ ค.438/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66 - รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซิตี้ สีดำ ติดป้ายแผ่นทะเบียน กจ 9257 เลย จอดด้านหลังร้านนวด (รถผู้เสียหาย ที่ได้แจ้งความไว้ ที่ สน.โคกคราม)
- รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น ยาริส สี เทา ติดป้ายแผ่นทะเบียน 2ขอ 3198 กทม จอดด้านหลังร้านนวด
8.รถยนต์ยี่ห้อ นิสสัน รุ่น อัลเมร่า สีขาว ติดป้ายแผ่นทะเบียน 6กฆ 1135 กทม. จอดด้านหลังร้านนวด - รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดด้านหลังร้าน
- รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีเทา ติดป้ายแผ่นทะเบียน กพ4693 ภูเก็ต จอดด้านหน้าร้านอาหารใต้
โดยของกลางลำดับที่ 6-10 ตรวจยึดได้ ณ บริเวณหน้าและหลังร้านนวด ณ บ้านเลขที่ 1/4 หมู่ 2 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี ตามหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ ค.437/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66
พฤติการณ์กล่าวคือ จากเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 66 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จับกุมตัว นายภีรพัฒน์ บุญมี อายุ 26 ปี หรือ อุ้ม หรือ อั้ม หรือ พอช หรือ พัด หรือ แซ็ค หรือ แร็ค อยู่บ้านเลขที่ 28/2 ม.3 ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 7 หมายจับ ซึ่งคนร้ายรายนี้ได้แฝงตัวอยู่ในแอ็พพลิเคชั่นหาคู่ สร้างโปรไฟล์เป็น “เซเลบเก๊” ทำการ “นัดยิ้ม” กับเหยื่อที่เป็นหญิงสาวและจะอาศัยจังหวะที่เหยื่อนอนหลับไป “ขโมยรถ” ของเหยื่อไปขายให้กับกลุ่มผู้ค้ารถเถื่อน ซึ่งหลังการจับกุมได้ขยายผลการจับกุมจนสืบทราบเบาะแสว่ารถยนต์ของ เหล่าหญิงสาวผู้เสียหายได้ถูกเซเลบเก๊รายนี้ขโมยไปนั้นได้ถูกนำไปขายให้กับ “มาม่าซัง” ย่านบางบัวทองซึ่งยังไม่ทราบว่าชื่อสกุลจริงอะไรทราบเพียงว่ามาม่าซังรายนี้เป็น “สายมู” และชื่นชอบดูดวง จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จนกระทั่งสืบทราบว่า มาม่าซัง ดังกล่าวคือ นางสมนึก ขุนทอง อายุ 65 ปี ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า มาม่าซัง หรือ นางสมนึกฯ มิได้ทำเพียงคนเดียวแต่ยังมีผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งเป็นลักษณะ “ธุรกิจครอบครัว” ซึ่งมี น.ส.กนกวรรณ ขุนทอง อายุ 41 ปี (ลูกสาว) , น.ส.นฤมล สังขนัครา อายุ 19 ปี (หลานสาว) และ นาย รุ้ง ศรีบุญเพ็ง (ลูกเขย) ร่วมกันทำด้วย ซึ่งจากการสืบสวนแผนประทุษกรรมของแก๊งนี้นั้นจะเปิดกิจการร้านนวดบังหน้า และจะใช้พื้นที่ด้านหลังร้านเป็นสถานที่ซุกซ่อนรถที่ไปรับซื้อจากเหล่ามิจฉาชีพ หรือรถที่หลุดจำนำ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการ “ชำแหละ” แยกอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งภายในโรงชำแหละนี้มีเครื่องไม้เครื่องมือในการแยกชิ้นส่วนรถยนต์ เรียกได้ว่า “ครบวงจร” ก่อนจะนำชิ้นส่วนรถขายทอดตลาด โดยระยะเวลาในการ “ย่อยสลาย” รถเมื่อแก๊งมาม่าซังได้รับรถมาแล้ว ใช้เวลาทั้งกระบวนการไม่เกิน 2 วัน ซึ่งข้อมูลจากการสืบสวนทำให้ทราบว่าแก๊งมาม่าซังนี้จะรับรถเข้ามาโดยเฉลี่ยแล้วสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 5 คัน และจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ยังได้รับเบาะแสจากชาวบ้านในละแวก ซึ่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามาม่าซังรายนี้คือ “เจ้าใหญ่” ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการสืบสวนของเจ้าหน้าที่
ซึ่งต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. วิเคราะห์จากข้อมูลการสืบสวนแล้วเห็นว่าเครือข่ายแก๊งมาม่าซังนี้เป็นภัยสังคม และมีพฤติกรรมที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมายเพราะมีการทำอย่างเรียกได้ว่า “โจ่งครึ้ม” นำทีมสืบสวนสอบรวนรวบรวมพยานหลักฐานด้วยตนเองกระทั่งได้ออกหมายจับเครือข่ายแก๊งมาม่าซังนี้ได้ทั้ง 4 ราย ในข้อหา “ร่วมกันรับของโจรอันเป็นการค้ากำไร”
ต่อมาวันที่ 4 พ.ค. 66 พล.ต.ท.ธิติฯ สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ฯ
นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. หรือ “สืบนครบาล” จับกุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายตามหมายจับของศาล โดยจับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 95 ม.3 ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จว.ราชบุรี และจากนั้น พล.ต.ท.ธิติฯ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ นำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรีที่ ค.437/2566 และ ค.438/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66 เข้าตรวจค้น (ร้านนวด) บ้านเลขที่ 1/4 ม.2 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี และ (โรงชำแหละ) บ้านเลขที่ 29/2 ม.6 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี ผลการตรวจค้น บริเวณโรงชำแหละ พบรถยนต์จำนวน 5 คัน (รายละเอียดปรากฏตามลำดับที่ 1-5) และตรวจค้นบริเวณหลังร้านนวด พบรถยนต์จำนวน 5 คัน (รายละเอียดปรากฏตามลำดับที่ 6-10) เป็นจำนวนทั้งสิ้น 10 คัน ไม่สามารถระบุที่มาที่ไปได้ โดยในการตรวจค้นได้มีหญิงสาวผู้เสียหายเดินทางมาตรวจสอบเพื่อชี้ยืนยันรถของตนเอง หญิงผู้เสียหายแสดงความ “ตื้นตันใจ” ได้ “สวมกอด” และกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 4 นาย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา หลังเสร็จสิ้นการจับกุมได้นำตัว ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน นำส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางโพทอง จว.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่า “จากการจับกุมครั้งนี้เราขยายผลมาจากการจับกุม เซเลบเก๊ จนมาพบเครือข่ายมาม่าซังนักชำแหละรถรายใหญ่นี้ จากปฏิบัติการทลายเครือข่ายนี้เราตรวจยึดรถต้องสงสัยได้จำนวน 10 คัน จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนให้ตรวจสอบหมายเลขตัวถังรถข้างต้น หากเป็นรถของท่านให้รีบแจ้งมาที่ บก.สส.บช.น. ทางโทรศัพท์หรือช่องทางเฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยหลังจากนี้เราจะเดินหน้าขยายผลและจับกุมอาชญากรรมในลักษณะนี้อย่างเข้มข้นตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ขอเตือนไปยังกลุ่มผู้ซื้อขายรถ หรือกลุ่มที่ยังลักลอบซื้อรถผี รถเถื่อน ในลักษณะนะให้เลิกซะ ถ้ายังไม่เลิกไม่ว่าอย่างไรก็ต้องถูกจับกุม เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น”