“ผบช. ภ.7 แถลงรวบ”ไอ้เบิร์ด”มือมีด แทงแท็กซี่ ชิงทรัพย์”เจ้าหน้าปกครอง”ช่วยตะครุบตัวคาที่ทำการอำเภอ
วันนี้(วันศุกร์ ที่ 28 เม.ย. 66) เวลา 15.00 น.ที่ สภ.เมืองนครปฐม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐมพล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุทธรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐมและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ได้ ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย ได้แก่
1.นายชานน หรือ เบิร์ด พลเยี่ยม อายุ 24 ปี ที่อยู่เลขที่ 271 ม.2 ต.โป่งเปือย อ.หนองฮี จ.ร้อยเอ็ด โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “พยายามชิงทรัพย์ และพยายามฆ่าผู้อื่น”พร้อมของกลางในคดี
พล.ต.ท.ธนายุตม์ แถลงว่าคดีดังกล่าว สถานที่เกิดเหตุ จับกุม วันที่ 27 เมษายน 2566 เวลา 22.40 น. บริเวณลานภายในที่ว่าการอำเภอเมืองนครปฐม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จว.นครปฐม เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 22.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากวิทยุ สภ.เมืองนครปฐม ว่าพบผู้ต้องสงสัยในที่ว่าการอำเภอเมืองนครปฐม น่าจะมีเหตุทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ควบคุมตัวไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าตรวจสอบ พบนายชานนฯ สอบถามนายชานนฯรับว่าตนเองได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายคนขับรถแท๊กซี่ ซึ่งได้ว่าจ้างมาจากกรุงเทพฯให้มาส่งที่ บริเวณวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อถึงซอยเทศา 10 ข้างที่ว่าการอำเภอเมืองนครปฐม ได้ให้คนขับรถแท็กซี่เลี้ยวเข้าซอย แล้วได้ใช้มีดคัตเตอร์กรีดที่บริเวณลำคอ 4 ครั้ง แต่คนขับรถแท็กซี่ต่อสู้ ผู้ต้องหาจึงหลบหนีเข้ามาในที่ว่าการอำเภอเมืองนครปฐม
จากนั้นเจ้าหน้าที่สายตรวจจึงได้ตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ พบว่าโรงพยาบาลนครปฐม มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการใช้อาวุธมีด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบ พบนายหนูมอณ ศรีโท อาชีพชับรถแท็กซี่รักษาตัวอยู่ แจ้งว่าถูกคนร้าย(ซึ่งเป็นผู้โดยสาร) ใช้มีดคัตเตอร์กรีดที่บริเวณลำคอ ขณะขับผ่านบริเวณซอยเทศา 10 โดยนายหนูมอณฯได้ต่อสู้ จนคนร้ายหนีลงขจากรถ และนายหนูมอณฯขับรถแท๊กซี่หลบหนีมาโรงพยาบาลนครปฐม
เจ้าหน้าที่สายตรวจและชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม จึงได้เดินทางไปตรวจสอบรถแท็กซี่เขียว-เหลือง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลาอัลติส หมายเลขทะเบียน 1มค 499 กรุงเทพมหานครฯ จอดอยู่ลานจอดรถด้านหน้าโรงพยาบาลนครปฐม ตรวจสอบพบคราบเลือด, อาวุธ และถุงกระสอบสีฟ้า จึงได้เก็บรวบรวมเป็นพยานหลักฐาน
จากการสอบถาม นายชานนฯ ยอมรับว่า มีดคัตเตอร์ที่ใช้ก่อเหตุ และอุปกรณ์ในถุงกระสอบสีฟ้าเป็นของตนจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม แจ้งข้อกล่าวหา และยึดของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง รวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ ให้สามารถลงโทษผู้กระทำความผิดได้จนถึงที่สุด เพื่อลดความเกรงกลัวภัยของประชาชน และประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข ตามคติที่ว่า”คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์”
ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องตำรวจ
ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป “ผบช.ภ.7 กล่าว”
