ผบช.ภ.7 สั่งกำชับ 9 มาตราการเข้ม เร่งรัดคดี”แอม” ฆาตกรต่อเนื่อง
วันนี้(วันพุธ ที่ 26 เม.ย. 66) เวลา 14.00 น.ที่ห้องประชุมเสสะเวช ตำรวจภูธรภาค7 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐมพล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานการประชุมเร่งรัดติดตามผลความคืบหน้าคดีที่เป็นที่น่าสนใจของประชาชน “เหตุ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ เสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ”
โดยมีพล.ต.ท.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผทค.พิเศษตร. รรท.รอง ผบช.ภ.7
พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร
รอง ผบช.ภ.7,พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล
ผบก.สส.ภ.7,พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุทธรวานิช
ผบก.ภ.จว.นครปฐม
พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย
ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พล.ต.ต.กำธร อุ้ยเจริญ
ผบก.ศพฐ.7
คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีน่าสนใจตามคำสั่ง ภ.7ที่ 262/2566 ลง 25 เม.ย. 66
ผกก. และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยว่าได้กำชับให้
1.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสอบสวนเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐาน และ เร่งรัดผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานนำเข้าในสำนวนการสอบสวน
2.ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีทุกนาย พึงระมัดระวังการให้ข่าว โดยเน้นย้ำอย่าให้มีการเผยแพร่แนวทางการสืบสวน หรือข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องทางคดี ต่อสื่อมวลชนหรือมีภาพไปปรากฎยังสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ เพราะจะทำให้ข้อมูลความลับคดีหรือเทคนิคในการสืบสวนรั่วไหล ทำให้ทำงานได้ยาก
3.กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานร่วมกันเป็นทีม(teamwork) บูรณาการการข่าวร่วมกันทุกฝ่าย แบ่งหน้าที่กันทำงานให้ชัดเจน
4.ให้เจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดประสานและดำเนินการตามที่ได้สั่งการ
5.ให้รายงานผลการปฏิบัติให้ทราบทุกระยะ หากพบปัญหาให้รายงานให้ทราบ เน้นย้ำอย่าให้เกิดข้อบกพร่อง
6.ให้ฝ่านสืบสวน เร่งรัดจัดทำรายงานการสืบสวน ตามที่ได้สั่งการไว้ เพื่อนำเข้าสู่สำนวนการสอบสวนโดยเร็ว
7.มอบหมายให้ พล.ต.ท.บุญญฤทธิ์ รอดมา และ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ควบคุมการทำสำนวนคดีทุกคดีด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด
8.ให้พนักงานสอบสวนทุกคดีเร่งรัดผลตรวจจากนิติเวชเพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวน
9.ให้รายงานความคืบหน้าของแต่ละคดีให้ทราบเป็นระยะและขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ได้ติดตามในคดีนี้ ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เพื่อสร้างความเพื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน “ผบช.ภ.7 กล่าว”