หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม"อัจฉริยะ" ขาประจำ....!!!ร้องขอ "ผบ.ตร." ให้ตั้ง "รองฯ โจ๊ก" สอบตำรวจ ภ.1 และตำรวจ จ.สมุทรปราการ เรียกเก็บเงินเจ้าของบ่อน สูญเงินหลายล้าน

“อัจฉริยะ” ขาประจำ….!!!ร้องขอ “ผบ.ตร.” ให้ตั้ง “รองฯ โจ๊ก” สอบตำรวจ ภ.1 และตำรวจ จ.สมุทรปราการ เรียกเก็บเงินเจ้าของบ่อน สูญเงินหลายล้าน

วันที่ 17 มี.ค.66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นักร้องเรียนตำรวจ ขาประจำ กล่าวว่า วันนี้นำเอกสาร เป็นรายชื่อข้าราชการตำรวจ ตั้งยศ พ.ต.ท.-พล.ต.ต. รวม 6-7 นาย พร้อมรายชื่อผู้ประกอบการบ่อน 7 ราย  โดยมี พ.ต.อ.ธนู พวงมณี รอง ผบก.ส.3 นายตำรวจเวรเป็นผู้รับเรื่องเพื่อร้องเรียน พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์  ผบ.ตร. ให้ตั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล​ รอง ผบ.ตร.  เป็นหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ากลุ่มนายตำรวจดังกล่าวมีการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการบ่อนจริงหรือไม่

โดยนายอัจฉริยะ  เปิดเผยว่า ได้มีกลุ่มนายตำรวจซึ่งอ้างตัวว่าเป็นหน้าห้องผู้บัญชาการภาค 6-7นาย ได้รับไฟเขียวจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ให้ผู้ประกอบการบ่อนสามารถเปิดบ่อนได้ในพื้นที่  สภ.บางบ่อ สภ.สำโรงเหนือ สภ.เมือง  สภ.บางเสาธง สภ.บางพลี  รวม 18 บ่อน  แต่ต้องแรกกับการเรียกเก็บเงินบ่อนละ 3-4 ล้านบาท ต่อเดือน  แต่กลับเปิดได้เพียงแค่ 2-3วัน  ตำรวจก็สั่งปิด ผู้ประกอบการจึงพยายามจะขอเงินคืน ซึ่งผู้การจ.สมุทรปราการก็รับปากว่าจะคืนเงินให้ แต่สุดท้ายไม่ยอมคืนเงิน แต่ใช้วิธีให้เปิดเพิ่ม 15 วัน ระหว่างนั้นก็ได้มีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาปล้นบ่อน 3 ที่  ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ได้เงินไปกว่า 50 ล้านบาท จากนั้นบ่อนก็ถูกตำรวจ สั่งปิดอีกครั้ง

ทั้งนี้มีผู้ประกอบการมาร้องเรียนกับตนจำนวน 7 ราย โดย 6รายเคยมีประวัติทำบ่อนอยู่ในนครบาล ส่วนอีก1ราย เป็นนั่งเล่น ที่ผันตัวอยากทำบ่อนเอง โดยมีชุดหน้าห้องผู้บัญชาการภาค 1 เป็นคนคอยแนะนำ พร้อมทั้งหาสถานที่  อุปกรณ์ และเจ้ามือให้  ตนยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนได้เสียกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และไม่ได้เป็นการขัดแย้งระหว่างผู้ประกอบการบ่อนในพื้นที่   แต่เป็นเพราะว่าตำรวจหลอกเงินผู้ประกอบการให้มาเปิดบ่อน แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก

นอกจากนี้ยังพบว่าผู้การ จ.สมุทรปราการยังเกี่ยวข้องกับทุนจีนที่ลักลอบนำสินค้าหนีภาษี และสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย  โดยพบว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถยึดทรัพย์สินได้มาถึง 20 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามตนเองมีหลักฐานที่แน่นหนามีทั้งเส้นทางการเงิน  และคลิปวิดีโอ ที่พร้อมจะมอบให้กับพนักงานสอบสวน  ส่วนผู้ประกอบการบ่อนก็พร้อมที่จะมาเป็นพยานด้วยทั้งหมด

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img