ข้อหา เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ความผิดต่อเสรีภาพ ทําพยานหลักฐานเท็จฯ เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษ บุกรุก ซ่องโจร
วันที่ 23 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2566. เวลา 09.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤตมิ ชอบกลาง นัดสอบข้อเท็จจริงโดยศาล คดีหมายเลขดําที่ อท 23/2566 ระหว่าง นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา โจทก์ พลตํารวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว ทึ่ 1 กับพวกรวม 7 คน จําเลย ข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัตหิ นา้ ที่ โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ, ทําพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษ, บุกรุก, ซ่องโจรฯศาลฯ สอบโจทก์แล้วเห็นว่า กรณีโจทก์ยังบรรยายฟ้องไม่ชัดเจนสําหรับความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 164, 179, 200, 210, 310, 364 และ 365 เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมและเพื่อให้ได้รับความชัดแจ้งในข้อเท็จจริงแห่งคดี ให้โจทก์แถลง ข้อเท็จจริงเก่ียวกับพฤติการณ์ทั้งก่อนและหลังจากที่โจทก์ถูกจับกุมว่า 1.) โจทก์รู้จักกับจําเลยทั้งเจ็ดมาก่อนเกิดเหตุหรือไม่ อย่างไร มีสาเหตุโกรธเคืองกัน หรือไม่ อย่างไร และโจทก์รู้จักเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์จับกุมตามรายชื่อในบันทึกการ จับกุมหรือไม่ อย่างไร มีสาเหตุโกรธเคืองกันหรือไม่ อย่างไร, 2.) พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุ ได้แก่ บุคคลที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุ จํานวนเงินที่ เกี่ยวข้องกับการจับกุมโจทก์ และโจทก์ช้ีแจงข้อเท็จจริงในขณะถูกจับกุมหรือไม่ อย่างไร, 3.) พฤติการณ์ท่ีเกิดข้ึนหลังจากวันเกิดเหตุคือโจทก์ดําเนินการอย่างไรบา้งหลังจากถูก จับกุมแล้ว
4.) หลังถูกจับกุม โจทก์ถูกดําเนินการทางวินัยหรือไม่ อย่างไร, 5.) จําเลยทั้งเจ็ดมีพฤติการณ์ใดที่ทําให้โจทก์คิดว่าการดําเนินการให้โจทก์ถูกจับกุมนั้น เป็นการกล่ันแกล้งโจทก์
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้นัดฟังคําสั่งหรือคําพิพากษาวันที่ 30 มีนาคม 2566 เวลา 09.30 น.ศาลอาญาคดีทุจรติ และประพฤติมิชอบกลาง
“ผบ.ตร.” เชื่อผู้การฯ ปปป. ไม่ไหวหวั่นหลังถูกอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ แจ้งข้อหาดำเนินคดี 157 หลังนำกำลังจับกุมในห้องทำงาน ย้ำตำรวจทำงานภายใต้กรอบกฎหมาย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าข้าราชการตำรวจไม่หวั่นไหว กรณีที่ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แจ้งข้อหา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. กับพวก ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ ,ทำพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา บุกรุก ซ่องโจร, พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กรณีนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุม นายรัชฎา ภายในห้องทำงาน โดยยืนยันว่าตำรวจปฎิบัติหน้าที่ไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยไม่มีเจตนากลั่นแกล้งหรือใส่ร้าย อีกทั้งได้รับการประสานจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. จึงปฎิบัติไปตามหน้าที่ ซึ่งหากทางอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ คิดว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็เป็นสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับตำรวจได้
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าที่ผ่านมาได้เน้นย้ำข้อกฎหมายกับตำรวจทั่วประเทศในการเข้าตรวจค้นเป้าหมายและสถานที่ต่างๆโดยเฉพาะกับผู้ต้องหารายสำคัญก็จะต้องให้มีการบันทึกภาพและคลิปวิดิโอไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบภายใต้กรอบของกฎหมาย ว่าทำอะไรก็ต้องตรงไปตรงมาเพราะมีหลายฝ่ายจับจ้องมองอยู่ และทุกอย่างก็เป็นไปตามภาพที่ปรากฎ
ทั้งนี้ เชื่อว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติและชุดปฎิบัติการจับกุมไม่หวั่นไหวกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะทราบดีอยู่แล้วว่าจะได้รับแรงกระทบอะไรกลับมาบ้าง พร้อมย้ำว่าตำรวจดำเนินการตามกรอบกฎหมาย และที่ผ่านมายังไม่ได้มีการพูดคุยกับผู้บังคับการ ปปป.แต่อย่างใด