จากกรณีที่นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค ถึงกลุ่มพลเมืองโต้กลับ รวม 15 คน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับพวกรวม 5 คน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 ฐานเป็นกบฏ โดยมีตอนหนึ่งระบุว่า “การฟ้องว่า การที่ คสช ยึดอำนาจเป็นการกระทำความผิดและขอให้ศาลลงโทษทางอาญานั้น คนที่ฟ้อง อาจต้องรับผิดทางอาญาเสียเอง”
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า “ฤา…การปฎิวัติไม่มีวันที่จะหมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
เห็นภาพข่าวนี้แล้วสังเวชใจ
เพราะคิดยอมจำนน ทั้งอวย และข่มขู่กันปานนี้
จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นการสืบสาย ต่อพันธ์ุของผู้ถืออาวุธ
ลุกขึ้นทำการรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่า
จนสังคมไทยชินชากับการรัฐประหาร และมองปรากฏการณ์
ของการทำรัฐประหารว่าเป็นสิ่งปกติของสังคมไทย
ลองดูสิว่า ถ้าผู้ก่อการ
รัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ถูกชี้ว่าเป็นกบฏ ไม่สามารถออกกฏหมายนิรโทษกรรมให้กับตัวเองได้ แล้วถูกลงโทษตามที่บัญญัติไว้ในกฏหมาย
ต่อไปจะมีใครกล้าทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งอีกไหม
ผมคิดว่าน่าจะถึงยุคสมัย และวันเวลาที่จะสถาปนาระบอบ
ประชาธิปไตยให้ยั่งยืนสถิตย์สถาพรได้แล้วนะครับ
ปัจจุบัน ปี พ ศ 2561 ไม่ใช่ ปี พ ศ 2514 แน่นอน
คุณจะไปใช้วิธีการเก่าๆแบบ ปี 2514 ที่เอาผู้ฟ้องร้องคนรัฐประหาร
ไปเข้าคุกขัง เหมือน ท่าน อุทัย พิมพ์ใจชนท่านอนันต์ภักดิ์ประไพ
และ ท่าน บุญเกิด หิรัญคำ อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่โดน
คงไม่ได้แล้ว
ผมจะรอคอย ว่าวันที่22 มิถุนายน พ ศ 2561 จะเป็นวันเริ่มต้น
ที่ยั่งยืนของระบอบประชาธิปไตยไทยได้หรือไม่
ยากเห็นขอบ ฟ้าใหม่ ไทยงามงด
เป็นขอบฟ้า ใสสด หมดรัฐประหาร
ประชาธิปไตย ชูช่อ ผลิดอกบาน
ตราบเท่านาน อสงไขย ไปนิรันดร์
ฤา…การปฎิวัติไม่มีวันที่จะหมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทยเห็นภาพข่าวนี้แล้วสังเวชใจเพราะคิดยอมจำนน ทั้งอวย…
โพสต์โดย Somsak Pris เมื่อ วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2018