ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.จิราณีย์ ไชยปุริวงศ์ อายุ 43 ปี นักธุรกิจเครื่องสำอางและสวนผลไม้ และนายยมนา แย้มคร้าม อายุ 27 ปี ผู้เสียหายถูกคนร้ายอุ้มเรียกค่าไถ่ 5 ล้าน ก่อนหนีเอาตัวรอดออกมาได้ เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.วังน้อย จ.อยุธยา เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อชี้ตัวผู้ต้องหา หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลออกหมายจับจนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา 4 ราย คือ นายกำปั่น ทอนเกาะ อายุ 51 ปี นายสมชาย มีสัตย์ อายุ 37 นายกฤษฎา ประวิเศษ อายุ 45 ปี นายกฤษฎา ประวิเศษ อายุ 45 ปี น.ส.จิตรัตดา เห็นสีดา อายุ 39 ปี
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า คดีนี้ได้มีผู้เสียหายร้องเรียนเข้ามา จึงได้สั่งการให้สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด จนสามารถจับกุมตัวได้ ซึ่ง จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้ให้ซัดทอดว่าได้รับการว่าจ้างจาก นายสุทธิโรจน์ ทอนเกาะ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นอดีตสามีลูกจ้างของผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ข้อหา“ใช้จ้างวาน ยุยงส่งเสริม หรือกระทำอื่นใด ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืน, ทำร้าย ร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นได้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย” ต่อมาผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้อย
ทั้งในเบื้องต้น น.ส.จิราณีย์ แจ้งว่าได้รับการติดต่อจากกลุ่มคนร้ายว่าจะขอซื้อที่ดินโดยนัดหมายให้ไปพูดคุยกันที่สำนักงานของกลุ่มคนร้าย ในพื้นที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรีในวันที่ 10 มี.ค.61 เวลา เมื่อไปถึงและเข้าไปในอาคารสำนักงาน กลับถูกกลุ่มคนร้ายบังคับมัดมือ มัดเท้า และบอกว่า ต้องการเงิน 5 ล้านบาทเพื่อแลกกับการปล่อยตัว มิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย ด้วยความกลัวจึงยอมตกลง ต่อรองค่าไถ่เหลือ 3 ล้านบาท จากนั้นคนร้ายได้พาตนเองไปเบิกเงินสดที่ ตู้ ATM หน้าร้านสะดวกซื้อในเขต อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี สามารถกดเงินสดได้ 100,000 บาท จึงได้ตกลงกันว่า จะรอให้ลูกจ้างของผู้เสียหายโอนเงินมาเพิ่มให้อีก ระหว่างรอ กลุ่มคนร้ายได้พาตนเองตระเวนออกนอกพื้นที่ มาตามถนนสายมอเตอร์เวย์ จนเข้าสู่ ถ.พหลโยธิน ในเขต อ.วังน้อย โดยคนร้ายได้ขับรถเข้าไปเติมน้ำมัน ระหว่างนั้นจึงได้ทำทีขอเข้าห้องน้ำและเข้าไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานในร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป”พล.ต.อ.ศรีวาราห์ กล่าว”
โดยต่อมา น.ส.จิราณีย์ ได้ชี้ตัวนายสุทธิโรจน์ โดยไม่ลังเล เนื่องจากเห็นรูปผู้ต้องหาในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ก่อนหน้านี้ และตนเองก็จำเสียง นายสุทธิโรจน์ ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีความสนทสนมกันมานาน อีกทั้งแฟนของผู้ต้องหาก็เป็นลูกน้องของตนเอง พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาหรือขัดแย้งกันมาก่อน แต่เชื่อว่าผู้ต้องหาประสงค์ต่อทรัพย์สินของตนเองแน่นอน ส่วนจะหวังมุ่งหมายเอาชีวิตจริงๆตามที่ผู้ต้องหาขู่จะฆ่าหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ แต่ก็อาจเป็นไปได้ ส่วนภรรยาของผู้ต้องหาซึ่งเป็นอดีตลูกจ้างจะเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องรอการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ต่อไป
https://youtu.be/GD8lAyfaOoQ
https://youtu.be/EswKP5nP-DQ
https://youtu.be/u2mEvq5Hlpg
https://youtu.be/bZWtWcE3wD0