หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม"รองฯ เด่น" นำทีมตํารวจ PCT แถลงผลงาน ประสานกัมพูชา ล่าแก็งคอลเซ็นเตอร์ เพิ่มอีก 59 ราย ส่งไทยดําเนินคดี

“รองฯ เด่น” นำทีมตํารวจ PCT แถลงผลงาน ประสานกัมพูชา ล่าแก็งคอลเซ็นเตอร์ เพิ่มอีก 59 ราย ส่งไทยดําเนินคดี

วันที่ 2 กันยายน 2565 เวลา 13.30 น. ที่ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อํานวยการศูนย์ ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT: Police Cyber Taskforce , พล.ต.อ.ปรีชา เจริญสหายนนท์ ที่ปรึกษา พิเศษ ตร., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 1, พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. ได้ร่วมแถลงจับกุม เครือข่ายแก็งค์คอลเซนเตอร์ในกัมพูชาเพิ่มอีก 59 ราย เตรียมส่งไทยดําเนินคดี

พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา ตํารวจ PCT เปิดปฏิบัติการร่วมกับตํารวจกัมพูชาทลายเครือข่าย แก็งค์คอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งฐานปฏิบัติการกลางเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชาจับกุมผู้ต้องหา 94 ราย และนําตัวกลับมาดําเนินคดีในประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้นล่าสุดได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8 หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 1 ,พ.ต.อ.สถิตย์ พรหมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พาหะกิจ ผกก.(สอบสวน) บก.สส.สตม.พร้อมกําลังตํารวจ PCT สืบสวนขยายผลถอนรากถอนโคนขบวนการน้ีให้หมดไป จนได้ พยานหลักฐานนําไปขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 59 ราย

ได้ประสานงานตรงไปยัง ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตํารวจกัมพูชา และส่งกําลังตํารวจ PCT เข้าร่วมปฏิบัติการ ในครั้งนี้ นําโดย พ.ต.อ.รัฐโชติ โชคิคุณ รอง ผบก.สส.สตม. นัดหมายในวันที่ 29 ส.ค.65 เข้าทําการตรวจค้นพร้อมกัน จํานวน 2 จุด ในเมืองพระสี หนุ และเมืองกันดาล ประเทศกัมพูชาดังนี้จุดที่ 1 อาคารในเมืองพระสีหนุ ซึ่งเครือข่ายกลุ่มนี้มีแผนประทุษกรรมหลอกลวงคนไทยฝั่งประเทศไทยให้ทําการลงทุนตามภารกิจ ใน เครือข่ายของแอพพลิเคชั่น tiktok มีประชาชนได้รับความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ที่เกิดเหตุพบคนไทย 19 ราย เป็นบุคคลตาม หมายจับ 15 ราย และไม่มีหมายจับอีก 4 ราย ซึ่งทั้งหมดทํางานเป็นพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์

จุดที่ 2 อาคารในเมืองกันดาล ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของกลุ่มคนจีนร่วมกับคนไทย จัดตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์ ในลักษณะแอบอ้างเป็นพนักงาน ไปรษณีย์ไทย ,บริษัท DHL และแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.แหลมฉบัง มีประชาชนได้รับความเสียหายมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ผล การตรวจค้นพบคนไทยซึ่งเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ตามหมายจับกว่า 40 ราย

สําหรับผู้ต้องหาทั้ง 59 รายนั้น อยู่ระหว่างรอการส่งกลับไทยมาดําเนินคดี ซึ่งตํารวจ PCT จะไปรอรับตัวที่ชายแดน จ.สระแก้ว เพื่อซักถาม ปากคําผู้ต้องหา และหลังจากเสร็จสิ้นการขยายผลแล้ว จะมีพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตํารวจมารับตัวผู้ต้องหาไปดําเนินคดีตามกฏหมาย ต่อไป

ผอ.PCT กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีความห่วงใยปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งปัจจุบันได้สร้างความเสีย หายไปแล้วนับตั้งแต่ ต.ค.64 – ปัจจุบันคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,136 ล้านบาท สร้างความเดือดให้กับประชาชนอย่างมาก สั่งการให้สํานักงานตํารวจ แห่งชาติเร่งปราบปรามและหาทางป้องกันอย่างจริงจังและยั่งยืน จึงอยากฝากเตือนประชาชนให้มีสติคิดก่อนจะโอนเงินให้ใคร หากผู้เสียหายที่ยัง ไม่ได้ร้องทุกข์สามารถแจ้งความในระบบรับแจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com หรือพบเบาะแสเกรงจะตกเป็นเหยื่อสามารถ ปรึกษาได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 ผู้เสียหายสามารถ และสามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงได้ ที่ pctpr.police.go.th

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img