วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) แม่ของนายระม้าย โมริพันธ์ หรือ ครูแดน ครูสอนคิวบู๊ชื่อดัง นำเอกสารข้อความ รวมถึง รูปภาพ และคลิปวิดีโอต่าง ๆ มายื่นเรื่องขอความช่วยเหลือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พ.ต.อ.สุเทพ ไพบูลย์ผล รอง ผบก.คพ. นายตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ หลังพบว่า ลูกชาย ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังของกลุ่มชาติพันธุ์ว้า ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และมีการเรียกเงิน จำนวน 4 แสนบาท เพื่อให้ปล่อยตัวลูกชาย
แม่ของนายระม้าย ยืนยันว่า ลูกชาย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ทราบว่า ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ลูกชาย เดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหาทุนทำภาพยนตร์ ซึ่งหลังได้รับข้อมูลและเห็นสภาพของลูกชาย ก็รู้สึกสะเทือนใจมาก และหวังว่า ลูกยังปลอดภัย
ขณะที่ จ่าบอย เพื่อนสนิทของครูแดน ให้ข้อมูลว่า ส่วนตัวรู้จักและสนิทสนมกับครูแดน และมั่นใจว่า ครูแดน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเช่นกัน แต่เหตุที่เกิดขึ้น เพราะครูแดน มีความไว้ใจ เพื่อนคนไทย 2 คน ที่เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยบุคคลทั้งสอง ติดหนี้เงินค่ายาเสพติด 24 ล้านบาท กับนายทุนกลุ่มชาติพันธุ์ ทั้งสองจึงออกอุบาย หลอกครูแดนว่าจะพาไปรู้จักนายทุน เพื่อสนับสนุนให้เงินทำภาพยนตร์ แต่ข้อเท็จจริง เพื่อนของครูแดนทั้งสองคน กลับไปอ้างกับนายทุนว่า ครูแดน ไปคนนำเงิน 24 ล้าน ไปอีกทอดหนึ่ง จึงขอให้จับตัวครูแดน ไว้เป็นตัวประกัน และกักขังไว้ แต่ต่อมา นายทุน พบข้อเท็จจริงว่า ครูแดน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดหนี้เงินค่ายาเสพติด ดังนั้น กลุ่มนี้ จึงส่งข้อความเรียกเงิน จำนวน 4 แสนบาท เพื่อเป็นค่าไถ่ตัวครูแดน ที่ถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ในห้วงเวลาที่ครูแดน ถูกควบคุมตัวครูแดน พยายามขอความช่วยเหลือจากทหารกลุ่มชาติพันธุ์ ส่งข้อความขอความช่วยเหลือกลับมายังครอบครัวที่อยู่ในประเทศไทย
ส่วนประเด็น การติดตามตัวเพื่อนของครูแดนทั้งสองคน เบื้องต้น มีประวัติเกี่ยวข้องยาเสพติด และค้าอาวุธ หลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ทางครอบครัว จึงจะประสานขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมอบหมายให้ตัวเองลงมาดูแลเรื่องนี้แล้ว แต่เบื้องต้นต้องไปตรวจสอบว่าตัวของครูสอนคิวบู๊รายนี้เดินทางออกนอกประเทศได้อย่างไร และไปทำอะไรที่ฝั่งพม่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการเข้าหรือออกโดยถูกกฎหมายหรือไม่ ซึ่งต้องไปตรวจสอบในส่วนนี้ก่อน แต่อย่างไรก็ตามตัวเองจะทำเรื่องประสานในระดับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติควบคู่กับการประสานในส่วนของระดับของกองบัญชาการภาค เพราะระดับภาคจะมีความใกล้ชิดกว่า พร้อมยอมรับว่าการประสานในรูปแบบนี้ค่อนข้างยาก เพราะรูปแบบแตกต่างจากการประสานแบบประเทศที่ผ่านมาเพราะก่อนหน้านี้มีการขอความร่วมมือในส่วนของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะดำเนินการช่วยเหลือเหมือนกับกรณีที่เคยผ่านมาก่อนหน้านี้โดยเร็วที่สุด
