ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ออกแถลงการณ์กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เรื่องขอประณามการคุกคามและละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ เนื้อหาระบุว่า หลังจากที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งได้ประกาศจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร หยุดระบอบ คสช. หยุดยื้อเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการปราศรัยและทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ผ่านขบวนพาเหรดที่สร้างสรรค์ สงบสันติ ปราศจากอาวุธ เพื่อเดินเท้าไปสื่อสารและอ่านแถลงการณ์หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้มีการออกคุกคามประชาชนที่เคยมาร่วมกิจกรรม หรือที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงคาดเดาว่า จะเข้าร่วมกิจกรรมถึงบ้านทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
ล่าสุดการยกระดับการคุกคามเกินเลยไปจนถึงการนั่งเฝ้าหน้าบ้าน ติดตาม และขอศาลออกหมายค้น เพื่อไปค้นบ้านประชาชนที่คาดว่า จะมีส่วนในการร่วมสนับสนุนกิจกรรมในทางใดทางหนึ่ง
จนเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 พ.ค. นายนานอุทัย แถวโพธิ และภรรยา ผู้เคยให้ทางกลุ่มเช่าเครื่องเสียงเพื่อใช้ในงาน ได้ถูกควบคุมตัวโดยแจ้งว่า จะพาไปเข้าค่ายทหารและขาดการติดต่อ นี่คือการอุ้มหาย (Enforced Disappearance) ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงในทางกฎหมายสิทธิมนุษยชน และเราได้มีการรายงานเรื่องนี้ต่อองค์กรสิทธิฯนานาชาติแล้ว กลุ่มคนอยากเลือกตั้งขอยืนยันว่า การชุมนุมโดยสงบสันติปราศจากอาวุธ เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ได้รับการรับรองไว้ทั้งในรัฐธรรมนูญไทย และในปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประเทศไทยไม่อาจเป็นประชาธิปไตยหรือ มีบรรยากาศที่พร้อมต่อการเลือกตั้งได้โดยปราศจากการมีส่วนร่วมทางการเมืองภาคประชาชน
การกระทำของรัฐที่ผ่านมาขัดแย้งกับหลักการทั้งหมดดังกล่าว และถือเป็นอาชญากรรมที่กระทำต่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศที่ถูกยึดอำนาจและละเมิดสิทธิในทุกด้านมาตลอด 4 ปี เราขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรงและยืนยันว่าเสรีภาพในการแสดงออกต้องได้รับการเคารพ เราจะดำเนินการชุมนุมตามแผนต่อไปและไม่มีวันยอมจำนนต่อระบอบคสช.ที่พยายามทำให้บ้านเมืองอยู่ในสภาพไร้ขื่อแป