วันที่ 13 มิถุนายน 2565 พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น. 9 ได้มีคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ที่ 148 /2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ระบุว่า “ด้วยเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 00.40 นาฬิกา ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม พร้อมกับพวกตามรายชื่อในบันทึกจับกุม พ.ต.อ.รศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผู้กำกับการ สวัสดิภาพเต็กและสตรี กองบัญขาการตำรวจนครบาล พร้อมกับพวก ตามรายชื่อในบันทึกจับกุมร่วมกันจับกุมตัว นายคมสัน แตงฉ่ำ อายุ 36 ปี โดยกล่าวหาว่า เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อฯ 2548 ประกอบประกาศกรุงเทพมหานครสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวฉบับ 53 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 ปล่อยปละละเลยให้มีการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านที่ผ่านการตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยต้านสุขอนามัย Amazing Thailandsafety & Health Administration (SHA) และผ่านการตรวจมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยป้องกันโรคcovid-19 รองรับสุขภาพดีวิถีใหม่ (Thai StopCovid 2 Plus), เปิดให้บริการ การจำหน่ายและการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านเกินเวลา 24.00 นาฬิกา และทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดความแออัดฝ่าฝืนข้อกำหนด ที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 44 ข้อ 3 การปรับปรุงมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่เฝ้าระวังสูงและพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว, ร่วมกันมั่วสุม ที่ไม่เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด อันเป็นความผิตตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อเป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 , ยินยอมหรือปล่อยปละให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดภายในร้านสถานบริการ
ของกลาง จำนวน 5 รายการ รายละเอียดปรากฏตามบันทึกจับกุมแนบท้าย เหตุเกิดวันที่ 12 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 04.00 น. นาฬิกา ที่บริเวณร้าน 77 โซไซตี้ เลขที่57-59 ถนนท่าข้าม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์และพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นตังกล่าวนั้นว่ามีข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ตามวัน เวลา ตังกล่าว กระทำผิดทางวินัยและทางอาญา หรือไม่อย่างไร มีดังนี้ พันตำรวจเอก เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม, พันตำรวจโท ภัทรพงษ์ เสยกระโทก สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม รักษาราชการแทน รองผู้กำกับการ ป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม
พันตำรวจโท ทศพร กลีบแก้วสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม รักษาราชการแทน รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม, พันตำรวจตรี ณัฐสกล คนเล็กใจเพชร สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม, ร้อยตำรวจเอก ธนานุวัฒน์ บุญจอง รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม, ร้อยตำรวจเอก กฤษฎา บุญทองรองสารวัตรป้องกันปรามปราบ สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม, ร้อยตำรวจโท วัฒนสิทธิ์ บุ้งทอง รองสารวัตรสายงานสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม, ดาบตำรวจ ขาญวิราช สุขะพินิจ ผู้บังคับหมู่ งานสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม, ดาบตำรวจ สามารถ ศิริเรศน์ ผู้บังคับหมู่ งานสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม, ดาบตำรวจ บรรเจิด จวงสอนผู้บังคับหมู่ งานป้องกันปรามปราบ สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม, สิบตำรวจเอก ภวัต จำรัสฉาย ผู้บังคับหมู่ งานสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม, สิบตำรวจโท ทวีศักดิ์ วีริยากุล ผู้บังคับหมู่ งานสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม
อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 84 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน สืบสวนในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้ พันตำรวจเอก ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ เป็นประธานกรรมการรองผู้บังคับการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 9, พันตำรวจเอก โกมินทร์ อ่อนเพชร์เป็นกรรมการผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 9, ร้อยตำรวจเอก จำรัส เนื้อไม้เป็นกรรมการ รองสารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน, พันตำรวจโท กรวิก สุปะทัศ เป็นกรรมการและเลขานุการสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน, พันตำรวจตรี เธียรภัทร กล้าใจเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการสารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสืบสวน ดำเนินการสืบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จ ภายใน ๗ วัน แล้วเสนอสำนวนการสืบสวนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
ถ้าคณะกรรมการสืบสวนเห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิตวินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่มีการสืบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่น และคณะกรรมการสืบสวนพิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่า ข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำในเรื่องที่สืบสวนนั้นอยู่ด้วย ให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็วสั่ง วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2565 “คำสั่งดังกล่าว ระบุ”