หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม"ผบช.ภ.7" นำทีมแถลง 2 คดีรวด รวบเครือข่ายค้ายา 3 ราย ของกลาง เกือบ 2 แสนเม็ด...

“ผบช.ภ.7” นำทีมแถลง 2 คดีรวด รวบเครือข่ายค้ายา 3 ราย ของกลาง เกือบ 2 แสนเม็ด พร้อมรวบ ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อ

วันที่ 4 เมษายน 2565 เวลา 13.30 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง.ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญผบก.ศฝร.ภ.7 หน.ชปส.ภ.7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหา เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 3 ราย (1.) นายสุริยา หรือยา กวยระคาน อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 51/4 ม.5 ต.ตากแดด อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร, (2.) นายประสิทธิ์ หรือโบ แสขือ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 14 ซอยเสรีไทย 30 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ, (3.) นายนพดล รุ่งเจริญล้ำ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 1/6 หมู่ที่ 7 ต.ล้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 180,000 เม็ด, รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีบอร์นเงิน คันหมายเลขทะเบียน งว-7539 เชียงใหม่ โดยจับกุมได้บริเวณหอพักในพื้นที่ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ต่อเนื่องบริเวณหลักกิโลที่ 33 ริมถนนสาธารณะสาย 347 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ปส.ภ.7 ได้ทำการสืบสวนทราบว่า มีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ของนายสุริยาหรือยา กวยระคาน ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยวิธีการลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ตอนกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ปส.ภ.7 จึงได้จัดหาสายลับ ติดต่อสั่งซื้อยาเสพติด จำนวน 200,000 เม็ด จากกลุ่มเครือข่ายนายสุริยาหรือยาฯ ซึ่งมีนายทัช (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) เป็นผู้สั่งการ โดยตกลงจำหน่ายยาเสพติดให้ในราคา 1,3000,000 บาท ซึ่งต้องชำระเงินค่ายาเสพติดบางส่วนจำนวน 600,000 บาท ให้กับนายสุริยาฯ ซึ่งนายสุริยาฯ จะเปิดห้องพักอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม เพื่อรอรับเงิน เมื่อได้ส่งมอบยาเสพติดเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้วางแผนการจับกุม

โดยวันที่ 2 เม.ย 65 ได้มีการตกลงนัดหมายส่งมอบยาเสพติด ที่บริเวณหลักกิโลที่ 33 ริมถนนสาธารณะสาย 347 ม.5 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปรับยาเสพติดที่วางไว้เรียบร้อยแล้ว จึงได้นำธนบัตรล่อซื้อจำนวน 600,000 บาท ไปส่งมอบให้กับนายสุริยาๆ ที่พักอยู่ภายในห้องพัก ในพื้นที่ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พร้อมทั้งแสดงตัวเข้าทำการจับกุม ผลการตรวจค้นภายในห้องพัก พบบุคคลผู้อยู่ในกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดจำนวน 3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการจับกุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนโดยแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ว่าได้กระทำความผิดฐาน ” ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชา ชน โดยเป็นการกระทำที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ” พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปอนึ่งในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ปส.ภ.7. / ชุดขยายผล ภ.7 จะดำเนินการขยายผลจับกุมบุคคลในเครื่อข่าย และดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดียาเสพติดพ.ศ.2565 มาตรา 11(6)เพื่อทำการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องหรือได้มาจากการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ของบุคคลในเครือข่ายต่อไป

เวลาต่อมา ผบช.ภ.7 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหา นายประพจน์   คชรัตน์ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 27/63 หมู่ 4 ตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร  ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 78/2565 ลง 4 เมษายน 2565 โดยกล่าวหาว่า  ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม  และพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  จำนวน 1 คัน, หมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ยี่ห้อ INDEX สีดำ ด้านหลังมีสติ๊กเกอร์ 811 จำนวน 1 ใบ, เสื้อคลุมแขนยาว สีดำ    จำนวน 1 ตัว, กางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน  จำนวน 1 ตัว, ถุงมือผ้า สีเทา จำนวน 1 คู่, รองเท้าหนังเทียม ยี่ห้อ PUMA สีขาว แถบสีดำเลือดหมู จำนวน 1 คู่, กางเกงยีนส์ขายาว สีดำ ยี่ห้อ Mc (พบอยู่ใต้เบาะ) จำนวน 1 ตัว, รองเท้าแตะแบบสวม สีน้ำเงินคาดเหลือง (พบอยู่ใต้เบาะ) จำนวน 1 คู่, แผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 1 กฒ 4870 สมุทรสาคร (พบอยู่ใต้เบาะ) จำนวน 1 แผ่น, มีดปอกผลไม้ สแตนเลส ด้ามสีดำ ความยาวรวมด้าม 23 ซม. จำนวน 1 เล่ม

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 1เมษายน 2565 เวลา 03.17 น. คนร้ายเป็นชาย จำนวน 1 คน สวมหมวกกันน๊อกสีดำแบบเต็มใบ ยี่ห้อ INDEX สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ สวมถุงมือสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบสีขาว แถบคาดน้ำเงินหรือสีดำ ยี่ห้อ PUMA ก่อเหตุใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาปากทางสวนส้ม ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 10,000 บาท หลังก่อเหตุ คนร้ายได้ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร  ได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ วิเคราะห์พฤติกรรมคนร้าย วางแผนการตรวจป้องกันเหตุ โดยได้สำรวจข้อมูลร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในพื้นที่ ซึ่งมีทั้งหมด 99 แห่ง แบ่งเป็นจุดเสี่ยงสูงจำนวน 20 แห่ง พร้อมกับจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบแต่งกายชุดพนักงานเชเว่นไปเฝ้าประจำ แห่งละ 2 นาย ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน จนถึงเวลา 05.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งต่อมาวันที่ 2 เมษายน 2565  เวลา 02.40 น. คนร้ายได้พยายามชิงทรัพย์ ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาเบญจทรัพย์ ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร  แต่ไม่ได้ทรัพย์สิน เนื่องจากพนักงานวิ่งหลบหนีออกจากร้านไปได้ก่อน จากนั้นคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนเส้นทางเดินรถมุ่งหน้าตัวเมืองสมุทรสาคร กระทั่งมาลงก่อเหตุ เวลา 02.46 น. คนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาเอกชัย 15 (เดอะพราว) ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 7,000 บาท โดยหลังก่อเหตุขับขี่ รถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง หลบหนีไป

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน 7-11 ที่เกิดเหตุ และจากกล้องวงจรปิดของรถโมบาย CCTV UNIT ที่จอดป้องกันเหตุอยู่บนถนนเอกชัย บริเวณแยกหมู่บ้านเดอะพราว ตำบลมหาชัย  ทำให้เห็นตำหนิรูปพรรณของคนร้ายและรถที่นำมาใช้ก่อเหตุได้ชัดเจนยิ่งขึ้น  จึงทราบว่า รถที่คนร้ายนำมาใช้ก่อเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง วงล้อสีทอง และจากการสังเกตพฤติกรรม พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 3 แห่ง มีแผนประทุษกรรมคล้ายกันทั้ง 3 ครั้ง  ซึ่งคนร้ายได้มีการวางแผนเตรียมการเป็นอย่างดี กล่าวคือ แต่งกายมิดชิด สวมหมวกกันน๊อคแบบเต็มใบ สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ  สวมถุงมือทั้งสองข้าง เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ จะจอดรถจักรยานยนต์ ในจุดที่ห่างหรือไม่มีกล้องวงจรปิด คอยสังเกตดูที่ร้าน 7-11 ที่จะก่อเหตุ หากไม่มีลูกค้าหรือช่วงที่ปลอดคน คนร้ายจะเข้าไปภายในร้านและกระโดดข้ามเค้าเตอร์เข้าไปหาพนักงาน ตะโกนคำว่า “นี่คือการปล้น” และใช้อาวุธมีดจี้บังคับพนักงานให้เปิดช่องเก็บเงิน แล้วส่งเงินให้คนร้าย โดยช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เป็นช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป จึงได้วางแผนการปฏิบัติเพื่อจับกุมคนร้าย

กระทั่ง วันนี้ (4 เม.ย.65) เวลา 02.40 น. เจ้าพนักงานตำรวจที่เฝ้าประจำร้าน 7-11 สาขาซอยบ้านปลายคลองครุ(ใกล้โรงแรมโนอาร์) สังเกตุพบชายต้องสงสัยแต่งกายลักษณะและใช้ยานพาหนะคล้ายกับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ดังกล่าว จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ และแจ้งศูนย์วิทยุเพื่อสกัดติดตาม จนกระทั่งสามารถควบคุมตัวชายคนดังกล่าวได้ที่บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานต่างระดับเข้าเมืองสมุทรสาคร ถนนเศรษฐกิจ ม.7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร   และได้จับกุมนายประพจน์  คชรัตน์   ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 78/2565 ลง 4 เมษายน 2565 ซึ่งนายประพจน์ฯ รับสารภาพว่า ได้เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทั้ง 3 แห่งดังกล่าวข้างต้น จริง  นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายได้ทำงานอย่างเต็มที่ สืบสวนหาข่าวเพื่อปราบปรามผู้กระทำความผิดกฎหมาย ตามวิสัยทัศน์ “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ ขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img