หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม'ชูชาติ' แจง ละเอียดยิบ! กรณี 'ลูกเลี้ยงกรณ์' โดนจับโคเคน เตือน! โซเชียลด่าศาลระวังเจอ ม.198

‘ชูชาติ’ แจง ละเอียดยิบ! กรณี ‘ลูกเลี้ยงกรณ์’ โดนจับโคเคน เตือน! โซเชียลด่าศาลระวังเจอ ม.198

นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงกรณีที่ นายพันธิตร หรือติ๊งค์ มหาเปารยะ อายุ 26 ปี บุตรของภริยานายกรณ์ จาติกวณิช ถูกเจ้าหน้าตำรวจจับกุมและถูกดำเนินคดีในข้อหามีโคเคนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อพนักงานสอบสวนนำไปขออนุญาตฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้และศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวหรือประกันตัวโดยตีราคาค่าประกันเป็นเงิน 10,000 บาท นั้น ว่า ปรากฎว่าชาวโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คบางกลุ่มถือโอกาสด่าศาลกันอย่างเมามันและหยาบคายโดยอ้างเหตุว่า ในคดีอดีตนางแบบคนหนึ่งซึ่งมีการกระทำลักษณะเดียวกัน แต่ศาลไม่ให้ประกัน คดีนี้ให้ประกันเพราะเป็นบุตรของภริยานักการเมืองดังอดึตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องถือว่าเป็นกรรมของศาลไทยที่ไม่ว่าจะมีคำสั่งหรือพิพากษาคดีใดและไม่ว่าจะมีคำสั่งหรือพิพากษาว่าอย่างไร ต้องมีบุคคลกลุ่มหนึ่งด่าตลอดมา

นายชูชาติ กล่าวต่อไปว่า ข้อเท็จจริงคดีอดีตนางแบบที่ถูกต้องมีดังนี้

1. เมื่อพนักงานสอบสวนนำตัวไปขออนุญาตฝากขังต่อศาลอาญา พนักงานสอบสวนก็กล่าวในคำร้องว่า อดีตนางแบบมีโคเคนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นเดียวกันและศาลอาญาก็อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวหรือประกันตัวโดยตีราคาค่าประกันเป็นเงิน 10,000 บาทเหมือนกัน
2. โทษฐานมีไว้ในครอบครองโคเคนโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการเสพมีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือท้ังจำทั้งปรับ และตามปกติศาลจะส่งตัวไปบำบัดรักษามากกว่าการลงโทษจำคุก เพราะผู้เสพยาเสพติดไม่ใช่อาชญากร ไม่ต่างจากพวกติดการดื่มสุราหรือสูบบุหรี่เพียงแต่ไม่ผิดกฎหมายเท่านั้น
3. ต่อมาพนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องอดีตนางแบบเป็นจำเลย ในข้อหานำโคเคนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 20 ปีถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000,000 บาท ถึง 5,000,000 บาท
4. ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยโดยจำคุก 15 ปี และปรับ 1,500,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย คดีจึงถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คือจำเลยถูกลงโทษจำคุก 15 ปี และปรับ 1,500,000 บาท อดีตนางแบบจำเลยจึงถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาลไม่ใช่เพราะศาลไม่อนุญาตให้ประกันตดังที่กลุ่มบุคคลที่ด่าศาลอ้าง

การที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวหรือประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย เป็นการพิจารณาคดีของศาลตามกฎหมายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 บัญญัติว่า ผู้ใดดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดีหรือกระทําการขัดขวางการพิจารณาหรือพิพากษาของศาล ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 7 ปีหรือปรับต้ังแต่ 20,000 บาทถึง 140,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ นายชูชาติ กล่าว

“การด่าศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดีด้วยถ้อยคำที่หยาบคายโดยไม่ได้คำนึงถึงว่าคดีนั้นมีข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเป็นอย่างไร คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายอย่างไร ย่อมมีความผิดตามมาตรา 198” นายชูชาติ กล่าว

นายชูชาติ กล่าวทิ้งท้ายว่า จึงขอได้โปรดพึงสังวรกันไว้บ้าง ถ้าหากมีผู้พิพากษาท่านใดท่านหนึ่งแจ้งความให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิดตาม มาตรา 198 จะอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือกล่าวหาว่า ผู้พิพากษาข่มขู่หรือรังแกประชาชนไม่ได้ เพราะผู้พิพากษาก็ย่อมมีสิทธิโดยชอบธรรมตามกฎหมายที่จะป้องกันตนเองให้พันจากการถูกกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเฉกเช่นประชาชนชาวไทยทุกคน

[fb_pe url=”https://www.facebook.com/chuchart.srisaeng/posts/1463838593742362″ bottom=”30″]


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img