วันที่ 11 พ,ฤศจิกายน 2564 พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตร.ขับเคลื่อนโครงการตำรวจจิตอาสาฯ อย่างต่อเนื่อง โดยมี ผบก.ภ.จว.น่าน นำทีมตำรวจ ข้าราชการและประชาชนจิตอาสา ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ 2 มหาราช ซึ่งตนเป็นผู้ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร. ให้กำกับดูแลงานตำรวจจิตอาสาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและได้รับผิดชอบขับเคลื่อนโครงการ“ตำรวจจิตอาสา บริจาคโลหิต ช่วยชีวิตผู้ป่วย น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ 2 มหาราช” เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเป็นพระราชกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและเนื่องในวันที่ ๕ ธ.ค. ๒๕๖๔ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยโครงการฯดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากกำลังพลตำรวจทั่วประเทศและคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.อ. วิระชัย รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า โครงการฯ ได้เริ่มมาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 21 ต.ค. 2564 ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และเมื่อวันพุธที่ 27 ต.ค. 2564 พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้เป็นประธานการเปิดกิจกรรมบริจาคโลหิตตามโครงการดังกล่าว ณ พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน กรุงเทพมหานคร โดยมีข้าราชการตำรวจจิตอาสาและประชาชนร่วมบริจาคโลหิตเป็นจำนวนมาก อีกทั้งหน่วยตำรวจทั่วประเทศยังคงจัดกิจกรรมต่อเนื่องกันในหลายพื้นที่ จนถึงวันนี้ ได้มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ รวมทั้งสิ้นกว่า 18,000 ราย ได้รับโลหิตแล้วรวมกว่า 5 ล้านซีซี
ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการนี้ กล่าวอีกว่า วันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการฯ อีกครั้ง เพราะได้รับความร่วมมือจากทีมงานตำรวจจิตอาสาภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผบก.ภ.จว.น่าน และสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน โดยทำการจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตขึ้น ณ ที่ว่าการอำเภอท่าวังผา จว. น่าน โดยได้รับเกียรติอย่างสูงจากท่าน พลตรี กัลย์สรรค์ จันทรเสน รองผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานและมี พล.ต.ต.ญาณพงศ์ โสมาภา รอง ผบช.ศ., พ.ต.อ.วินัย เกตุพันธ์ รอง ผบก.ภจว.น่าน,นายอำเภอท่าวังผา, นายกเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน พร้อมด้วยกำลังพลตำรวจ เหล่าข้าราชการ นักศึกษาวิชาทหาร รร.ท่าวังผา และประชาชนจิตอาสา เข้าร่วมงาน
การบริจาคโลหิตเป็นวิธีการช่วยชีวิตผู้อื่นที่ดีที่สุดที่คนทั่วไปสามารถทำได้ โดยเลือดต่างจากยารักษาโรคเนื่องจากไม่สามารถซื้อขายได้ จำเป็นต้องได้มาโดยการบริจาคเท่านั้น การบริจาคโลหิตถือเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เพื่อต่อชีวิตให้กับผู้อื่น โดยการบริจาคเลือดปกติ 1 ครั้งสามารถช่วยต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยได้ถึง 3 ราย
โครงการฯ นี้ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จึงขอเชิญชวนข้าราชการตำรวจและครอบครัว รวมถึงประชาชนทั่วไป สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ โดยท่านสามารถติดต่อเพื่อร่วมกิจกรรมได้ที่หน่วยตำรวจในพื้นที่ของท่าน หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร 1599