ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 8 ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พุฒิเดช บุญกระพือ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป., พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น รอง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.กฤษณะ หยาดคำ รอง ผกก.สส.สภ.เวียงสระ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน
ร่วมกันจับกุม นายศุภวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเวียงสระ ที่ 102/2564 ลงวันที่ 28 ส.ค.2564 ในข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่น โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายหรือไม่มีเหตุอันควร ทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ”
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 10.00 น. นายศุภวัฒน์ฯ (ผู้ต้องหา) อายุ 27 ปี ได้ขอเงิน น.ส.พรนภาฯ (ภรรยา) เพื่อจะนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ แต่ น.ส.พรนภาฯ ไม่มีเงินให้ จึงทำให้ทะเลาะกัน หลังจากนั้นนายศุภวัฒน์ฯ จึงเกิดความโมโห จึงนำตัวบุตรสาวอายุ 4 เดือน ซึ่งเป็นบุตรของตนเองกับ น.ส.พรนภาฯ ไปทำร้ายร่างกายในห้องน้ำ โดยได้ทุบตี และจับกดน้ำ ซึ่งระหว่างทำร้ายบุตรสาว นายศุภวัฒน์ฯ ได้ข่มขู่ให้ น.ส.พรนภาฯ ไปอยู่ในห้องนอน ต่อมาเมื่อบุตรสาวสลบไป นายศุภวัฒน์ฯ จึงได้นำตัวบุตรสาวไปให้กับ น.ส.พรนภาฯ
กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันเดียวกัน บุตรสาวของ น.ส.พรนภาฯ ได้เสียชีวิตลงจากการถูกนายศุภวัฒน์ฯ ทำร้าย ต่อมาในวันรุ่งขึ้น (12 ส.ค.64) นายศุภวัฒน์ฯ จึงได้ให้ น.ส.พรนภาฯ ติดต่อวัดเพื่อนำศพเด็กไปฝัง กระทั่งเมื่อติดต่อที่สำนักสงฆ์ ในพื้นที่ อ.เวียงสระ ได้เป็นที่เรียบร้อย ในเวลาประมาณ 15.00 น. นายศุภวัฒน์ฯ กับ น.ส.พรนภาฯ จึงได้นำเด็กใส่กล่องกระดาษ และนำไปฝังที่สำนักสงฆ์ พร้อมกับข่มขู่ไม่ให้ น.ส.พรนภาฯ นำเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร แต่ น.ส.พรนภาฯ ได้หลบหนีออกจากบ้านที่เกิดเหตุ และได้นำเรื่องดังกล่าวมาแจ้งให้มารดาทราบ จากนั้นญาติจึงพา น.ส.พรนภาฯ มาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามให้ช่วยเหลือและดำเนินคดีกับนายศุภวัฒน์ฯ ตามกฎหมาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปรามปราม และตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวน กระทั่งทราบว่า นายศุภวัฒน์ฯ ได้ทำร้ายร่างกายบุตรสาวและนำศพไปฝังจริง โดยทราบอีกว่าที่ผ่านมานายศุภวัฒน์ฯ จะเสพยาบ้า วันละ 2-3 เม็ด และจะทะเลาะกับ น.ส.พรนภาฯ พร้อมกับทำร้ายบุตรเป็นประจำ
ต่อมาวันที่ 28 ส.ค.64 พนักงานสอบสวน สภ.เวียงสระ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจากศาลจังหวัดเวียงสระตามหมายจับดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงลงพื้นที่จับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ม.3 ต.เวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงสระ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ นายศุภวัฒน์ฯ ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และแพทย์ ไปขุดศพของบุตรสาวที่ได้นำไปฝังไว้ เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพและส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่นิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยรับว่าเป็นผู้ทำร้ายร่างกายบุตรสาวจนเสียชีวิตจริง โดยหลังก่อเหตุได้บังคับภรรยาให้นำร่างของบุตรสาวไปฝังไว้บริเวณสำนักสงฆ์ทุ่งโศก ต.บ้านส้อง อ.เสียงสระ จว.สุราษฎร์ธานี แห่งนี้
