เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต (ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวในโซเชียล ว่า มีรถตู้เหมาคันขนชาวมุสลิมมาที่จังหวัดภูเก็ต ในช่วงเวลากลางคืน คันละไม่ต่ำกว่า 20 คน มาอยู่ในหมู่บ้านที่ชาวมุสลิมใต้ซื้อไว้ ทำให้ชาวบ้านกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา พี่น้องชาวภูเก็ต คงวิตกกับรถตู้ที่แอบนำเศรษฐีชาวมุสลิม จากจังหวัดชายแดนใต้เข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ขอให้พี่น้องชาวภูเก็ต ทราบถึงเทคโนโลยีที่ช่วยคัดกรองคน และสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งคนภูเก็ตได้รับการสนับสนุนของมูลนิธิรักษ์ภูเก็ต คือกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่คอยตรวจจับและบันทึกข้อมูลรถทุกคันที่เข้า-ออก จังหวัดภูเก็ต
“ด้วยความห่วงใยความรู้สึก ความเชื่อมั่นของคนภูเก็ต ได้ตรวจสอบกล้อง CCTV แบบสแกนเร็วๆ เบื้องต้นเพื่อหาข้อมูลรถตู้ที่ผ่านเข้าด่านตรวจในช่วงวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา เวลา 23.00 – 05.00 น. ของอีกวัน ปรากฏว่า มีรถตู้เข้าจังหวัดภูเก็ตในห้วงเวลาดังกล่าว จำนวน 2 คัน เป็นรถสำนักสงฆ์ 1 คัน รถมูลนิธิ 1 คัน และในวันที่ 21-24 พฤษภาคม 2564 ผู้ที่เข้าจังหวัดภูเก็ต ในห้วงเวลาดังกล่าว เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ออกใบสั่งกักทั้งหมด ซึ่งมีข้อมูลอยู่ที่ด่านตรวจและศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (E0C) ตำบล ซึ่งตรวจสอบรายชื่อเบื้องต้น ยังไม่มีชื่อที่น่าสงสัยว่าเป็นผู้ที่เดินทางมาจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้” ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าว
พล.ต.ต.ภรศักดิ์ กล่าวอีกว่า เราสามารถตรวจสอบข้อมูลรถตู้ที่เข้าจังหวัดภูเก็ต ย้อนหลังได้ โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดเป็นที่เรียบร้อย และจะเร่งดำเนินการให้ความจริงปรากฏโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณทุกเบาะแส โดยการคัดกรองคน แม้ว่าจะหลุดรอดสายตาคน แต่ไม่อาจหลุดสายตาเทคโนโลยีไปได้ คนภูเก็ตเห็นความสำคัญเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งล่าสุดท่านนายก อบจ. ได้สั่งเสริมเขี้ยวเล็บเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจตราเฝ้าระวังด้วยกล้อง CCTV ให้ตำรวจจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวอีกด้วย