นายสุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ …) พุทธศักราช … ก่อนรับหลักการ เรียกพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าหารือรายละเอียดร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการแล้ว เพราะได้ให้ข้อมูลผ่านการอภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วถึง 2 วัน เป็นข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และมองว่าที่จะให้ไปชี้แจงเป็นการถ่วงเวลา ส่วนการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการก็เป็นการศึกษาเรื่องเดิม พร้อมย้ำว่าเป็นการศึกษาในวาระรับหลักการ คณะกรรมาธิการควรพิจารณาศึกษาภาพกว้าง ว่าจะแก้ไขหรือไม่แก้ไข ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องลงรายละเอียด
นายสุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ขัดหรือแย้งและมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ว่า เข้าใจว่าที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทำให้คณะกรรมาธิการไม่มีอำนาจเรียกผู้มาชี้แจงได้ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใดก็ตาม รวมทั้งเรียกเอกสารไม่ได้ ซึ่งหากตีความแบบนี้จะส่งผลทำให้กลไกของประเทศเสียหาย โดยตามหลักการถ่วงดุลอำนาจและตรวจสอบจะเสียหาย ซึ่งอำนาจนิติบัญญัติอย่างรัฐสภาจะหมดศักยภาพที่จะไปถ่วงดุลกับฝ่ายบริหาร ทั้งที่อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ คือ การศึกษา เสนอแนะ และตรวจสอบฝ่ายบริหารอย่างรัฐบาล หากกลไกของรัฐไม่ถูกต้อง คณะกรรมาธิการก็มีหน้าที่ตรวจสอบ แต่เมื่อเรียกมาชี้แจงไม่ได้ ก็ทำหน้าที่ไม่ได้ ต้องคิดกันเองไม่มีข้อมูลมาพิจารณา ซึ่งเห็นว่าไม่มีประโยชน์กับการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการต่าง ๆ ได้เชิญคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ หรือภาคเอกชน มาชี้แจงเป็นประจำอยู่แล้ว แต่หากต่อไปทำไม่ได้ ก็จะทำงานลำบาก ส่งผลให้รายงานของคณะกรรมาธิการอาจจะไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งคิดว่าต้องหารือแนวทางการทำงานของคณะกรรมาธิการร่วมกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน