โดยนายอภิชาติ ได้กล่าวถึงประเด็นคำถามที่ต้องการทราบ เช่น โรงแรมศรีพันวา ก่อสร้างเมื่อไหร่ มีที่ดินขนาดเท่าไหร่ จำนวนกี่แปลง เป็นป่า หรือเป็นที่ดินของรัฐหรือไม่ การออกเอกสารสิทธิเป็นไปโดยชอบหรือไม่ ที่ดินบริเวณดังกล่าวมีความชันเท่าไหร่ พร้อมขอให้แสดงเอกสารภาพถ่ายและขอบเขต ด้านนายสุทัศน์ ได้เพิ่มประเด็นกองทุนประกันสังคมที่ได้ให้ศรีพันวากู้ยืมเงิน ด้วย
โดยในที่ประชุมนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดินได้ให้ข้อมูล ว่า ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าที่ดินดังกล่าวมีที่ดินทั้งหมด 79 ไร่ โดยเป็นที่ดินเดิมเป็นของประชาชนทั้งหมดจนกระทั้งมีประมวลกฎหมายที่ดินออกมา ประชาชนจึงเข้ามาแจ้งครอบครองที่ดินเมื่อปี 2498 เป็น ส.ค1.ทั้งหมด ต่อมาออกเป็น นส.3 และนส.3ก. ซึ่งที่ดินทั้งหมด กรมที่ดินได้ตรวจสอบตำแหน่งทิศทางแล้วถูกต้อง ต่อมาโครงการศรีพันวา ก็ได้เข้าไปซื้อที่ดินตั้งแต่ปี 46 ปี 58 ปี 59 ซึ่งเป็นการซื้อต่อเนื่องมาจากประชาชนในพื้นที่ จากการตรวจสอบการซื้อขายก็เป็นไปอย่างถูกต้อง แต่มีคำถามว่าที่ดินอยู่ในเขตป่าไม้หรือไม่ จากข้อมูลแผนที่พบว่าที่ดินแปลงนี้ก็ไม่ได้อยู่ในเขตป่าไม้แต่อย่างใด ส่วนเป็นเขามีความลาดชันนั้น พบว่าเป็นที่เขาจริง และมีความลาดชันจริง แต่การมีเอกสารสิทธินั้นเป็นไปได้ที่จะได้รับสิทธิครอบครอง เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นของประชาชนมาก่อนที่จะประกาศใช้กฎหมาย ซึ่งตามกฎหมายถ้าประชาชนอยู่มาก่อนการประกาศบังคับใช้กฎหมาย ประชาชนก็ได้สิทธิในการครอบครองพื้นที่
ขณะที่ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวไม่ได้อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ หรือพื้นที่ป่าแต่อย่างใด เป็นการออกเอกสารสิทธิในเขตป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.2484 สามารถทำได้ ตามมาตรา 4 คือประชาชนแจ้งสิทธิครอบครองตามกฎหมายที่ดินไว้ก่อนกฎหมายจะออก การออกเอกสารสิทธิในส่วนนี้กรมป่าไม้จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง
อย่างไรการตามในที่ประชุม นายสุทัศน์ ได้เสนอให้นักวิชาการเข้าไปตรวจสอบความลาดชันของพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง ที่ต้องการเช่นนี้ เพราะไม่ใช่ ไม่มั่นใจการตรวจสอบของหน่วยงานราชการ แต่คณะกรรมาธิการไม่มีความรู้