เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ศูนย์สื่อมวลชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) น.ส.ยุวดี วิริยะอาชา พร้อมผู้เสียหาย เข้าร้องเรียนสื่อมวลชนประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยทำข่าวกรณีที่ตนกับผู้เสียหายอื่นๆ อีก 50 คน สั่งซื้อสินค้าแบรนด์เนมจากแม่ค้าออนไลน์รายหนึ่งผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านท่าพระจันทร์ และปัจจุบันอยู่ในสถานะถูกพักการเรียนอยู่ โดยพบว่ามีความเสียหายรวมแล้วกว่า 6 ล้านบาท
นางสาวยุวดี กล่าวว่า รู้จักเพจนี้จากเพจรวมขายสินค้า ที่มีการโพสต์เสนอขายสินค้าแบรนด์เนม และเห็นผู้ค้ารายนี้โพสต์ขายกระเป๋า , รองเท้า , เสื้อผ้า ฯลฯ หากเป็นสินค้ามือหนึ่งราคาถูกกว่าเจ้าอื่น 20-30 เปอร์เซ็น ซึ่งจากการดูโปรไฟล์บนเพจเฟซบุ๊กของผู้ค้า ก็มีการโฆษณาให้เห็นว่ามีการรับออเดอร์สินค้าให้กับคนที่สั่งซื้อมาแล้วหลายคน อีกทั้งตัวผู้ค้าเองก็ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม โพสต์ภาพเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และทุกครั้งที่มีการสั่งซื้อสินค้า ก็จะเน้นถ่ายภาพคู่กับสินค้าจริง โดยใช้บัตรนักศึกษาถ่ายคู่กับข้อความที่เขียนด้วยลายมือตนเองเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้ตนหลงเชื่อสั่งซื้อกระเป๋า แบรนด์เนม 2 ใบ รองเท้า 1 คู่ ราคาประมาณ 66,500 บาท แต่เมื่อถึงเวลารับสินค้า ผู้ค้ารายนี้ก็เริ่มบ่ายเบี่ยงไม่ยอมส่งสินค้าให้อ้างปัญหาสารพัด จนสุดท้ายยอมรับว่า ไม่ได้ตั้งใจขายสินค้าตั้งแต่แรก และอยู่ระหว่างทำเรื่องกู้ยืมเงินธนาคาร เพื่อหาเงินมาชดใช้คืนให้กับผู้เสียหาย
น.ส.ยุวดี กล่าวว่า ตนจึงตรวจสอบชื่อของผู้ค้าทางออนไลน์ จึงพบว่ามีประวัติฉ้อโกงผู้เสียหายอื่นๆ หลายราย แต่ละรายพบว่าถูกหลอกแตกต่างกันไป มีทั้งสั่งสินค้าไปแล้ว ไม่ได้สินค้า , ได้สินค้ามือสอง , ได้สินค้าลอกเลียนแบบ รวมถึงได้กล่องเปล่าจากการสั่งอาหารฟาสต์ฟู้ด ส่วนความเสียหายที่พบ มีตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงสูงสุดกว่า 2 ล้านบาท จากการสอบถามผู้เสียหายในกลุ่มที่มีอยู่กว่า 50 คน พบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีแค่เพียง 10 รายเท่านั้น เนื่องจากผู้ค้ารายนี้อ้างว่า หากถูกดำเนินคดีแล้วจะไม่มีคนหาเงินมาชดใช้คืนให้กับผู้เสียหาย ทำให้ส่วนใหญ่ตัดสินใจยังไม่แจ้งความ
จากการติดตามพฤติการณ์ของผู้ค้ารายนี้ ก็พบว่ายังโพสต์ขายสินค้าในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ส่วนที่มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว ก็พบว่ามีความล่าช้าบางรายแจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ตำรวจก็ยังไม่ออกหมายเรียกให้ผู้ค้าไปให้ปากคำแต่อย่างใด เมื่อเห็นว่าคดีนี้ไม่คืบหน้าตนและผู้เสียหายรายอื่นจึงตัดสินใจเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขอให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวดังกล่าวด้วย
