“ออมสิน” มุ่งบทบาทธนาคารเพื่อสังคมชวนนักลงทุนร่วมช่วยเหลือภาคสังคม
การเคหะแห่งชาติออกพันธบัตรเพื่อสังคมวงเงิน 6,800 ล้านบาทเพื่อลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้เข้าถึงที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานและราคาที่เหมาะสมด้วยการสนับสนุนจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) มีธนาคารออมสินเป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายเล็งปี 2564 ออกพันธบัตรเพื่อสังคมเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง
นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นประธานงานแถลงข่าวการออกพันธบัตรเพื่อสังคมของการเคหะแห่งชาติและการลงนามในสัญญาการจัดจำหน่ายระหว่างการเคหะแห่งชาติและธนาคารออมสินโดยมีนายเอดวิบูลย์เจริญที่ปรึกษาด้านหนี้สาธารณะสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะนายณัฐพงศ์พันธเกียรติไพศาลประธานกรรมการการเคหะแห่งชาตินายทวีพงษ์วิชัยดิษฐผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ Mr.Hideaki Iwasaki, Thailand Country Director, Asian Development Bank และนายวิทัยรัตนากรผู้อำนวยการธนาคารออมสินร่วมในการแถลงข่าวณห้องประชุมกำแพงเพชรธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าวว่าการออกพันธบัตรเพื่อสังคม (Social Bond) ของการเคหะแห่งชาติในครั้งนี้เป็นการออกพันธบัตรเพื่อสังคมครั้งแรกของรัฐวิสาหกิจไทยตามนโยบายของ
นายจุติไกรฤกษ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ต้องการให้มีการระดมทุนจากตลาดทุนเพื่อเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมผ่านการลงทุนในพันธบัตรเพื่อสังคมโดยที่นักลงทุนยังได้ผลตอบแทนทางการเงินที่เหมาะสมซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการคลังที่สนับสนุนการออกผลิตภัณฑ์การลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและการกำกับดูแล (ESG Bond) ที่สนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจออกพันธบัตรเพื่อสังคมพันธบัตรเพื่อสิ่งแวดล้อมหรือพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนเพื่อนำเงินที่ระดมทุนได้มาพัฒนาประเทศตามภารกิจของแต่ละหน่วยงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ทั้ง 17 เป้าหมายขององค์การสหประชาชาติซึ่งประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกได้ให้การรับรองและคำมั่นในการขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
สำหรับการออกพันธบัตรเพื่อสังคมของการเคหะแห่งชาติในครั้งนี้เป็นการออกพันธบัตรเพื่อ Refinance การลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้เข้าถึงที่อยู่อาศัยทั้งประเภทเช่าเช่าซื้อและซื้อที่มีระดับราคาที่รับภาระได้เป็นการขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเป้าหมายที่ 11 การทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานมนุษย์มีความยั่งยืนและประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่เพียงพอซึ่งจะมีประชาชนประมาณ 13,569 ครัวเรือนหรือประมาณ 54,000 คนได้รับประโยชน์จากการออกพันธบัตรในครั้งนี้ทั้งนี้การออกพันธบัตรจะดำเนินการออกเป็น 3 ชุดคืออายุ 5 ปีวงเงิน 1,000 ล้านบาทอายุ 10 ปีวงเงิน 2,800 ล้านบาทและอายุ 15 ปีวงเงิน 3,000 ล้านบาทกำหนดออกพันธบัตรในวันที่ 23 กันยายน 2563 ซึ่งการออกพันธบัตรเพื่อสังคมในครั้งนี้การเคหะแห่งชาติได้รับความช่วยเหลือทางวิชาการแบบให้เปล่าจาก Asian Development Bank ทำให้การออกพันธบัตรเป็นไปตามมาตรฐานสากลของ International Capital Markets Association (ICMA) และ ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) และในปี 2564 กคช. ตั้งเป้าหมายการออกพันธบัตรเพื่อสังคมหรือพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนเพื่อนำเงินที่ได้มาลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าวว่าธนาคารออมสินมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายพันธบัตรเพื่อสังคมหรือ Social Bond ของการเคหะแห่งชาติพ.ศ.2563 วงเงินไม่เกิน 6,800 ล้านบาทนับเป็นครั้งแรกของรัฐวิสาหกิจไทยที่มีการออกพันธบัตรประเภทนี้ซึ่งกระทรวงการคลังโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้คัดเลือกธนาคารออมสินให้เป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายพันธบัตรมีจำนวน 3 รุ่นได้แก่รุ่น 5 ปีอัตราดอกเบี้ย 1.02% ต่อปีรุ่น 10 ปีอัตราดอกเบี้ย 1.64% ต่อปีและรุ่น 15 ปีอัตราดอกเบี้ย 1.90% ต่อปีกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งนี้ได้เปิดให้นักลงทุนแสดงความจำนงแล้วเมื่อวันที่15 กันยายน 2563 และจะเปิดให้จองซื้อในวันที่ 22 กันยายน 2563 นี้
“ธนาคารออมสินในฐานะสถาบันการเงินของรัฐที่มีบริการทางการเงินครบวงจรรวมถึงการให้บริการธุรกรรมทางการเงินเป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์หรือตราสารหนี้ต่างๆทั้งภาคเอกชนและภาครัฐโดยเฉพาะพันธบัตรของภาครัฐที่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปลงทุนและพัฒนาหลากหลายโครงการเพื่อช่วยเหลือสังคมในภาพรวมที่สำคัญเป็นหนึ่งในกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วยโดยที่ผ่านมาธนาคารออมสินถือเป็นผู้จัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐวิสาหกิจในระดับต้นๆของประเทศซึ่งการเป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายพันธบัตรเพื่อสังคมของการเคหะในครั้งนี้นอกจากเป็นการให้บริการทางการเงินดังกล่าวแล้วยังสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานของธนาคารออมสินที่มุ่งเน้นการทำภารกิจด้านสังคมหรือ Social Bank เช่นเดียวกัน” ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าว
ด้านนายณัฐพงศ์พันธเกียรติไพศาลประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติกล่าวถึงนโยบายการออกพันธบัตรของการเคหะแห่งชาติในปี 2564 เพิ่มเติมว่าการเคหะแห่งชาติมีแผนการระดมทุนในรูปแบบการออกพันธบัตรเพื่อสังคม (Social Bond) หรือพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน(Sustainability Bond) ซึ่งเป็นการจัดหาแหล่งเงินทุนในต้นทุนที่เหมาะสมเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการบ้านเคหะสุขประชาซึ่งการเคหะแห่งชาติได้รับนโยบายให้จัดสร้างที่อยู่อาศัยจำนวน 100,000 หน่วยในระยะเวลา 5 ปีเริ่มตั้งแต่ปีพ.ศ. 2564 – 2569 โดยจัดสร้างปีละ 20,000 หน่วยและส่งมอบในวันที่ 28 กรกฎาคมของทุกปีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทั้งนี้เพื่อให้ผู้สูงอายุผู้พิการข้าราชการชั้นผู้น้อยข้าราชการเกษียณและประชาชนที่มีรายได้น้อยรวมถึงผู้บุกรุกในพื้นที่สาธารณะได้มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยนอกจากนี้โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติมีแผนการออกแบบและก่อสร้างโครงการให้เป็นไปตามเกณฑ์ ECO-VILLAGE ของกคช. หรือมาตรฐานการประหยัดพลังงานเช่นบ้านเบอร์ 5 ที่การเคหะแห่งชาติร่วมดำเนินการกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย