ทั้งนี้ นายประสงค์ กล่าวว่า การสักการะช้างคู่วันนี้ เป็นการทำความเคารพสิ่งศักสิทธิ์ ซึ่งจะทำให้การทำงานราบรื่นในกระทรวงเหมือนพละกำลังของช้าง โดยเชื่อว่าจะผ่านพ้นปัญหาต่างๆไปได้หลังจากต้องเผชิญมรสุมต่างๆ
ส่วนกรณีการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2564 ล่าช้า ยืนยันว่า ไม่กระทบกับการใช้จ่ายต่างๆของรัฐบาล เนื่องจากล่าช้าเพียงแค่เดือนเดียว ซึ่งตามปกติแล้ว งานประมูลโครงการงบลงทุน กว่าจะเริ่มได้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือน เพราะฉะนั้นจึงมองว่าไม่ส่งผลกระทบอย่างแน่นอน และมองว่าไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุน การใช้จ่ายภาครัฐที่ผ่านมาการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 ล่าช้าถึง 8-9 เดือน ยังไม่พบปัญหา ส่วนการเบิกจ่ายงบฯที่ล่าช้าติดต่อกัน 2 ปีนั้น ขึ้นอยู่กับขั้นตอนของรัฐสภาในการพิจารณา
ส่วนประเด็นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนชรา ที่เดือนนี้ไม่สามารถดำเนินการโอนเข้าบัญชีได้ทันวันที่ 10 กันยายนนั้น นายประสงค์ กล่าวว่า ตอนที่ตั้งงบประมาณเบี้ยยังชีพ ใช้ข้อมูลของปี 62 ทำให้วงเงินที่ตั้งไว้ล่วงหน้าอาจคลาดเคลื่อน เช่น ในปี 63 มีจำนวนคนชราที่มีสิทธิเพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้รัฐบาลมีการเตรียมวงเงินไว้ล่วงหน้าแล้วแม้จะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งยืนยันรัฐบาลมีเงินเพียงพอถังไม่แตก เนื่องจากขณะนี้เงินคงคลังมีไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ด้านการจัดเก็บรายได้เข้าคลัง ตัวเลขยังเป็นไปตามเป้าหมาย และเชื่อว่า หากสามารถเปิดประเทศ และมีการค้นพบวัคซีนป้องกันได้สำเร็จการท่องเที่ยวกลับมา จะทำให้การจัดเก็บรายได้เข้าคลังในปี 2564 กลับมาฟื้นตัวได้