นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ‘นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ‘ กล่าวถึงกระแสการจัดตั้งพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ในช่วงนี้ ว่า ประเทศชาติ ต้องประกอบด้วยคน 3 วัย ตนจำได้เลาๆ ว่าในนิยายเรื่อง”อยู่กับก๋ง” มีคำกล่าวว่า ครอบครัวที่อบอุ่น มั่นคง ต้องมีทั้งเสียงไอของคนแก่และเสียงร้องของเด็ก หมายถึงต้องมีคน 3 วัยอยู่ด้วยกัน คนแก่หมายถึงประสบการณ์ เด็กหมายถึงอนาคตและความหวัง คนกลางคนหมายถึงกำลัง ความเข้มแข็ง หากถอดแบบครอบครัวมาเป็นประเทศ ประเทศก็ต้องมีคน 3 วัย ร้อยรัดเข้าด้วยกัน ทั้ง เด็ก,วัยกลางคน,และสูงอายุ หากประเทศมีเฉพาะเด็กก็คงล่มสลายไม่สามารถปกป้องตัวเองและบ้านเมืองได้ มีแต่คนหนุ่มไม่มีผู้สูงวัยก็ไม่มีประสบการณ์อาจนำไปสู่ความล่มจมได้เหมือนกัน หรือมีแต่ผู้สูงวัยแม้มากประสบการณ์บ้านเมืองก็คงหดหู่ไม่มีอนาคตที่สดใส
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อไปว่า ตนเห็นคนรุ่นหนุ่มสาวรวมตัวกันทำกิจกรรมทางการเมือง ก็ดีใจ ตนจำได้ว่า ฌอง ฌาค รุสโซ่ นักปรัชญาด้านการเมืองของโลกกล่าวไว้ในหนังสือcontral social (สัญญาประชาคม) ว่า “เมื่อพลเมืองกล่าวว่าเรื่องของรัฐ ไม่ใช่เป็นเรื่องของตน เมื่อนั้นรัฐก็กำลังเข้าใกล้ความล่มสลาย” เมื่อคนหนุ่มสาวเอาเรื่องรัฐมาเป็นเรื่องของตนก็วางใจได้ว่ารัฐไม่มีวันล่มสลาย แต่จะเติบโต เข้มแข็ง
“ผมให้กำลังใจ และสนับสนุนคนหนุ่มคนสาวให้เข้าสู่การเมืองเสมอ เพียงแต่บางครั้งก็รำคาญคำพูดของคนหนุ่มสาวอยู่บ้าง อยากบอกเป็นปริศนากับคนหนุ่มสาวว่า ผมได้เปรียบคนหนุ่มสาวอยู่อย่างหนึ่งตรงที่ ผมเคยมีอายุเท่าคุณ แต่คุณเสียเปรียบผมตรงที่คุณไม่เคยมีอายุเท่าผม” นายนิพิฏฐ์ กล่าว