ไทยพาณิชย์ เสริมแกร่งธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยเต็มรูปแบบผ่านบริษัทในเครือ “ไทยพาณิชย์ โพรเทค” เน้นผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองแบบตรงใจและตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มแมส เพื่อให้คนไทยรับมือกับความเสี่ยงต่างๆในชีวิต มั่นใจเติมเต็มช่องว่างในเรื่องความคุ้มครองที่ยังมีอยู่อีกมาก ภายใต้แนวคิด “คุ้มครอง คุ้มค่า เคียงข้างคุณ” พร้อมประกาศสร้างอาชีพให้คนรุ่นใหม่ในท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อเป็นที่ปรึกษาด้านความคุ้มครอง (Protection Consultant) ดูแลคนในพื้นที่
นางสาวปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประกัน ธนาคารไทยพาณิชย์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งให้ภาพรวมธุรกิจประกันในปีนี้คาดว่าน่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างมากจากผลกระทบของการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่หันมา ให้ความสำคัญกับสุขภาพ และการวางแผนการเงิน ทำให้ปัจจุบันความต้องการด้านความคุ้มครองได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และด้วยวิสัยทัศน์ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่จะเป็น “ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด” ประกอบกับความตั้งใจที่จะสร้างความแข็งแรงทางการเงินให้กับสังคมไทยในทุกระดับเพื่อให้สามารถเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ธนาคารได้ตัดสินใจที่จะดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยอย่างเต็มรูปแบบผ่านบริษัทในเครือ คือ บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด โดยเล็งเห็นว่าผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและประกันภัย เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินพื้นฐานที่ทุกครอบครัวควรจะมีเพื่อปกป้องคุ้มครองทำให้คนไทยพร้อมรับมือกับความเสี่ยงต่างๆในชีวิตได้ด้วยตนเองและประเทศไทยยังมีช่องว่างในเรื่องความคุ้มครองอยู่อีกมาก
“ธนาคารให้ความสำคัญและตั้งใจที่จะให้การบริการเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้ลูกค้าได้ value มากกว่าแค่การทำประกันซึ่งเราเริ่มในบางส่วนแล้วเช่น health eco system ที่จะมีบริการอื่นๆ ตามมา ขณะนี้บนฐานลูกค้าทั้งหมด 16 ล้านคน พบว่าลูกค้ากลุ่มแมสของธนาคารมีประกันเพียง 3% ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการตั้งบริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค ขึ้น ซึ่งไทยพาณิชย์ โพรเทค จะเป็นตัวขับเคลื่อนในการขยายตลาดแมสของธนาคาร ด้วยความเชื่อมั่นในระบบเทคโนโลยีและอุปกรณ์ดิจิทัลที่ทันสมัยประกอบกับเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาด้านความคุ้มครอง (Protection Consultant) ที่ประจำอยู่ในแต่ละพื้นที่ซึ่งได้รับการอบรมเป็นอย่างดีจะทำให้ไทยพาณิชย์ โพรเทค สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ตรงใจด้วยผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองที่หลากหลาย เน้นความคุ้มค่า พร้อมด้วยบริการหลังการขายที่รวดเร็วและเข้าถึงง่าย ลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมและความพึงพอใจจากการบริการของไทยพาณิชย์ โพรเทค”
โดยบริษัทจะเน้นการนำเสนอความคุ้มครองผ่าน 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการหลักคือ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันทรัพย์สิน และประกันออมทรัพย์ ที่คุ้มครองครอบคลุมทุกช่วงเวลาตั้งแต่การหารายได้ การใช้จ่าย การออมเงิน และการส่งต่อเงินให้กับคนที่เราห่วงใย เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ตลอดทุกช่วงเวลาของชีวิต
บริษัทตั้งเป้าที่จะมี Protection Consultant ให้ได้ตำบลละ 1 คนทั่วประเทศ ซึ่งการที่มีเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนท้องถิ่น จะทำให้สามารถเข้าใจปัญหาและอุปสรรคของคนในพื้นที่ โดยหน้าที่หลักของ Protection Consultant คือ นำเสนอแผนความคุ้มครองด้านประกันชีวิตและประกันวินาศภัยให้ลูกค้า และให้บริการลูกค้าหลังการขายอย่างใส่ใจ ทั้งนี้ Protection Consultant ถือเป็นช่องทางหลักของไทยพาณิชย์ โพรเทค นอกจากนี้เรายังมีช่องทางอื่นๆ อาทิ ดิจิทัล และเทเลเซลส์ “ในวันที่เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน เรากำลังจะจ้างคนจำนวนมาก โดยบริษัทจะเตรียมเรื่องการอบรม การพาไปสอบใบอนุญาตนายหน้าประกัน และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความรู้ให้กับทีมงานของเราอยู่ตลอด เพื่อให้คงความสามารถในการตอบ โจทย์ลูกค้าได้ ซึ่งเราตั้งเป้าที่จะมี Protection Consultant อย่างน้อย 500 คนในปีนี้ ส่วนเรื่องของธุรกิจภายใต้ ไทยพาณิชย์ โพรเทค คาดจะเริ่มได้ในปลายไตรมาสสามของปีนี้”
นางสาวปรมาศิริ กล่าวต่อว่า เป้าหมายสำคัญของบริษัท คือ อยากเห็นคนไทยมีความคุ้มครองและเข้าสู่การออมอย่างเป็นระบบ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับทุกความไม่แน่นอนในอนาคต จึงต้องการเน้นในเรื่องการเข้าถึงลูกค้าเป็นลำดับแรก ดังนั้น ขนาดของเบี้ยประกันจากไทยพาณิชย์ โพรเทคจะเล็กกว่าช่องทางอื่นๆ ของธนาคาร ซึ่งช่วงแรกของการสร้างทีม Protect Consultant จึงตั้งเป้าไว้ว่า ควรเข้าถึงลูกค้าในแต่ละเดือนได้มากกว่าตลาดอย่างน้อย 5 เท่า เมื่อเทียบกับตัวแทนที่ขายประกันที่เฉลี่ยมีการเข้าถึงลูกค้าประมาณ 1.7 รายต่อเดือน ดังนั้น หน้าที่ของบริษัทในการขยายสู่ตลาดแมส คือ การทำแพ็คเกจความคุ้มครองในสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ บริษัทจึงให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องการมีระบบที่ดีเพื่อช่วยในการขายและการบริการ การอบรมพนักงานให้มีความรู้ ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครอง และความเข้าใจในลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป โดยมุ่งหวังว่า บริษัทจะมีส่วนช่วยเติมเต็มให้คนไทยเข้าถึงประกันทุกรูปแบบได้สะดวก และคุ้มค่าที่สุด โดยอยากเห็นคนไทยมีอัตราการเข้าถึงประกันเพิ่มขึ้นให้มากที่สุดปัจจุบันที่มี 30%