เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ ศปก.ตร.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุม ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเร้น กับ บช.ภ.1 -9 บชก.สตม. บช.ทท. ตชด.ฯ
ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า หลังผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 5 ปรากฎมีแรงงาน 3 สัญชาติ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ลักลอบเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.ทั่วประเทศ จับกุมแล้วกว่า 3,000 คน ซึ่งเข้ามาในลักษณะกองทัพมด โดยมีขบวนการนำพาเข้าพื้นที่ชั้นใน ส่วนใหญ่เป็นการลักลอบเข้าทางตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งติดแนวชายแดนประเทศกัมพูชา ตำรวจภูธรภาค 5 พื้นที่ภาคเหนือ และตำรวจภูธรภาค 6 ซึ่งมีตะเข็บชายแดนติดประเทศลาว นอกจากนี้ในพื้นที่ชั้นในของตำรวจภูธรภาค 1 ยังจับแรงงานได้อีกจำนวนมาก ซึ่งทั้ง 3,000 คน ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว แต่ไม่พบ จึงได้ผลักดันออกนอกประเทศไปทั้งหมดแล้ว
สำหรับ กรณี เจ๊เพชร จ่าย และเจ๊ต้อย วังน้ำเย็น ซึ่งถูกระบุเป็นเอเย่นต์นำพาแรงงานเข้าประเทศผิดกฎหมาย ในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว อยู่ระหว่างให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ายังเคลื่อนไหวสั่งการนำพาแรงงานผิดกฎหมายอยู่หรือไม่ พร้อมยอมรับ ความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการที่ได้รับการผ่อนปรนระยะ 5 เป็นปัจจัยให้มีการลักลอบนำแรงงานผิดกฎหมายเข้าประเทศ เบื้องต้นยังไม่พบมีตำรวจเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์จากการเก็บค่าหัวคิวแรงงานเถื่อน เตือนผู้ประกอบการที่ใช้แรงงานเถื่อนจะถูกดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ฐานให้ที่พักพิงและใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และสั่งปิดสถานประกอบการทันที อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้แรงงาน 3 สัญชาติดังกล่าว เข้าประเทศ แต่มีเงื่อนไขต้องกักตัวตามขั้นตอนคัดกรองโรค โดยประเด็นนี้ยังไม่มีบทสรุป
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำชับตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้นการลักลอบเข้าประเทศของแรงงานเถื่อน โดยให้ตั้งจุดตรวจ ทั้งในพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นใน เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สืบสวนหาข่าวกลุ่มเอเย่นต์ ผู้ที่นำพาให้การช่วยเหลือนำพาแรงงานผิดกฎหมาย รวมทั้งจัดชุดสายตรวจร่วม ออกตรวจ ตักเตือน ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะสถานบริการกลางคืน
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่าสำหรับสถิติการจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ถึง 12 ก.ค.2563 สามารถจับกุมได้ 11,053 คน เป็นชาวเมียนมา 6,131 คน กัมพูชา 3,502 คน และลาว 1,336 คน นอกจากนี้ จับกุมขบวนการนำพาคนต่างด้าวเข้าประเทศผิดกฎหมาย 15 คน และผู้ให้ที่พักพิง 51 คน