โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค เป็นผู้รับฟังด้วยโดยคุณหญิง กล่าวว่า การหารือในวันนี้จะทำอย่างไรให้การออกกฎหมายควบคุมเกมไม่ขัดขวางกับอุตสาหกรรมของเกมมิ่ง และส่วนหนึ่งในช่วงหลังวิกฤติโควิด-19 จำเป็นต้องหารายได้ใหม่ ซึ่งมองว่า อีสปอร์ต สามารถเป็นฐานรายได้ใหม่ให้กับประเทศและทุกคนได้
สำหรับ ร่างกฎหมายฉบับนี้ เบื้องต้น มีการกำหนดให้มีการสตรีมเมอร์ เพียงแค่2 ช.ม.กำหนดอายุในการเล่น ห้ามแข่งเกมส์ในสถานศึกษา หรือบางเกมส์ยังต้องขอแพลตฟร์อมของรัฐ
ขณะที่ ตัวแทนของสตรีมเมอร์ กล่าวว่า คนที่สตรีมเมอร์ จะคิดรายได้จากยอดคนดูและระยะเวลา ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจและเป็นห่วงสุขภาพ แต่ในช่วงเวลาที่สตรีม นักสตรีมไม่ได้นั่งเล่นเกมอยู่ตลอดเวลา แต่จะมีทำกิจวัตรอื่นๆไปด้วย จึงสงสัยว่าคนที่ออกกฎหมายเข้าใจหรือไม่ ว่าวิถีชีวิตของเกมเมอร์หรือคนสตรีมเกม เป็นอย่างไร หากกฎหมายออกมาจริงๆตนนึกภาพไม่ออกว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร หากเด็กจะเล่น จะบังคับใช้กฎหมายกับเด็กอย่างไร คนที่ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นคนที่ไม่ได้รู้ทุกมุม และจะเกิดผลกระทบกับทุกส่วน และเรื่องการหารายได้ก็ยากยิ่งขึ้น ส่วนของการจัดการแข่งขันก็ยากขึ้น และมองว่าเกมไม่ได้สร้างโทษให้แก่เด็ก แต่สร้างประโยชน์ให้กับเด็กมากมาย เช่นการฝึกภาษา นักเกมเมอร์หลายคนเก่งภาษาได้ด้วยการเล่นเกม ส่วนการมองว่าจะเป็นเด็กติดเกม นั่นต้องขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของแต่ละครอบครัวด้วยซึ่งรวมถึงการเลียนแบบเกม จนทำให้เกิดภาวะเสียสุขภาพจิต แต่มองว่าหากมีการปิดกั้นอาจทำให้เกิดการเสียสุขภาพจิตมากกว่า
ขณะที่ ตัวแทนผู้ผลิตเกม กล่าวว่า ในส่วนของคนทำเกม ตลาดเกมไม่ใช่ขายแค่ในประเทศ แต่ต้องการส่งไปยังทั่วโลก กฎหมายที่จะออกมา หากพูดถึงผลกระทบกับผลผลิตจะได้ผลกระทบในส่วนน้อย แต่จะกระทบศักยภาพและโอกาสในการพัฒนาบุคคลากรในประเทศ ให้มีความสามารถพอที่จะผลิตเกมที่จะส่งออกไปทั่วโลกได้