นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ‘นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ‘ กล่าวถึงกรณีที่อัยการศาลแขวงปทุมวัน มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง 24 ผู้ต้องหา กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง หรือ MBK39 เนื่องจากเห็นว่า การชุมนุมดังกล่าวหากยื่นฟ้อง จะไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ก็เลยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ซึ่งอัยการได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปเมื่อวันที่ 9 มี.ค.61 ที่ผ่านมา
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อประเด็นดังกล่าวว่า ความก้าวหน้าของอัยการ ตนฟังเหตุผลที่พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ทั้ง 24 คน ในข้อหาชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน โดยนายเกริกเกียรติ รัฐนวธรรม อัยการเจ้าของสำนวนให้เหตุผลว่าการฟ้องไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ในฐานะนักกฎหมายก็ต้องชื่นชมความก้าวหน้าในการใช้ดุลยพินิจ ในท้ายที่สุดแม้อัยการสูงสุดและกอ.จะมีความเห็นอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ตนชื่นชมดุลยพินิจของท่าน ถือได้ว่า เป็นการถ่วงดุลย์การใช้อำนาจของผู้มีอำนาจ นานๆจะมีเหตุผลอย่างนี้สักครั้งหนึ่ง ตนไม่กล่าวอะไรมากก็แล้วกัน แต่ขอชื่นชม เหลือองค์กรหนึ่งที่ตนอยากเห็นการใช้เหตุผลทางกฎหมายในการตรวจทาน-ถ่วงดุลย์ การใช้อำนาจของฝ่ายบ้านเมือง คือ ศาลรัฐธรรมนูญ ในยามที่ทุกอำนาจง่อยเปลี้ยเสียขา ก็หวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเข้มแข็ง ลุกขึ้นปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยใช้อำนาจเข้าตรวจสอบถ่วงดุลย์ ตามหลักที่ว่า อำนาจเท่านั้นที่จะหยุดยั้งอำนาจ ก็ต้องรอฟังกันต่อไปว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้อำนาจไปในทางส่งเสริมการใช้อำนาจ หรือ ถ่วงดุลย์การใช้อำนาจ