ตนเห็นว่าเหตุผลและความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องใช้จ่ายเงินครั้งนี้ เกิดจากการออกคำสั่งล็อกดาวน์ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลเอง และสั่งระงับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อหยุดการแพร่ระบาด เกิดกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง รัฐบาลจึงมีหน้าที่ที่จะต้องเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบได้แก่ประชาชนและภาคเศรษฐกิจ จึงได้ตรา พ.ร.ก. 3 ฉบับนี้ แต่สิ่งตนห่วงคือเศรษฐกิจไทยได้รับความเสียหาย จากการบริหารที่ผิดพลาดและไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลมาก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด-19 ซึ่งมาตรการที่รัฐเลือกใช้ไม่ได้สัดส่วนกับเหตุที่เกิดขึ้น เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่รัฐบาลยังคงประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินต่อไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน อันจะทำให้เศรษฐกิจไทยที่เสียหายอยู่แล้วพังพินาศมากขึ้น ตอนนี้ประเทศไทยไม่ได้มีแค่ 3 ป. แต่มี 3 จ. คือ เจ็บ จน เจ๊ง ของเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ เสนอว่า รัฐบาลต้องสนับสนุนให้ตัวแทนประชาชนมีโอกาสได้ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ โดยผ่านทางกรรมาธิการวิสามัญของสภา, ต้องรายงานให้สภาได้รับทราบและตรวจสอบร่วมกันทุก 3 เดือน, และควรเปิดโอกาสให้มีการปรับปรุง พ.ร.ก.ให้ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ ด้วยการออก พระราชบัญญัติแก้ไขสาระสำคัญของการกู้เงินและการใช้เงินที่ไม่เป็นประโยชน์และขาดประสิทธิภาพ