นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ‘นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ‘ เปิดเผยถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการฯ นปช. ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (6 มี.ค.) ว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าจะไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย เพราะอุดมการณ์ต่างกัน แต่ไม่เคยฟันธงชัดๆ ว่าจะไม่จับมือกับ คสช. สนับสนุนนายกฯ คนนอก น่าสนใจว่าอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ คือร่วมสืบทอดอำนาจเผด็จการหรือไม่
นายนิพิฏฐ์ กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ยังเป็นบัวใต้น้ำ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ พูดว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยพูดชัดๆว่า จะไม่ร่วมมือกับคสช.สนับสนุนนายกฯคนนอก น่าสนใจว่า อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์คือร่วมทอดอำนาจเผด็จการหรือไม่ ความจริงช่วงนี้ ผมจำศีลไม่อยากพูดอะไรให้บรรยากาศมันร้อนขึ้นมานั่งดูบรรยากาศพรรคการเมืองใหม่ๆเขาไปจดทะเบียน พอครึ้มอกครึ้มใจ แต่พอณัฐวุฒิแขวะมาถึงอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ผมก็ต้องเลิกจำศีลชั่วคราว มาสนทนาธรรมกับณัฐวุฒิ หน่อย
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อไปว่า ณัฐวุฒิ เข้าใจหรือว่า เผด็จการคืออะไร เผด็จการมีทั้งในสภา และ นอกสภานะครับ แน่นอนทหารที่มาจากการยึดอำนาจเป็นเผด็จการ แต่ผู้มาจากการเลือกตั้งก็เป็นเผด็จการได้เหมือนกันนะครับ ฮิตเล่อร์ นั่นปะไร มาจากการเลือกตั้งเหมือนกันแต่เป็นเผด็จการจนนำโลกเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ไม่ยอมรับฟังเสียงข้างน้อย ไม่ยอมรับการตรวจสอบ ใช้เสียงข้างมากเพื่อประโยชน์ของตนเองและครอบครัว จนติดคุกกันเป็นแถว อยู่ในเรือนจำจนกลายเป็นเสียงข้างมากในเรือนจำไปแล้ว นั่นก็เป็นเผด็จการนะครับ เขาเรียกว่าเป็นเผด็จการพลเรือน เผด็จการพลเรือนแบบนั้นอยู่ใต้ขนตาของณัฐวุฒิแท้ๆ ไม่รู้จักเลยหรือครับ อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศเมื่อ 6 เมษายน 2489 เราต่อต้านทั้งเผด็จการในสภาและนอกสภา
“เราจึงประกาศว่า หลังเลือกตั้งเราสนับสนุนหัวหน้าพรรคของเราเป็นนายกรัฐมนตรี ณัฐวุฒิอย่าห่วงพรรคประชาธิปัตย์เลย ว่าแต่ว่า ณัฐวุฒิหาหัวหน้าพรรคของตัวเองให้เจอก่อนเถอะ ค่อยมาแขวะพรรคอื่น จนถึงวันนี้แล้ว ยังแยกไม่ออกว่าอย่างไหนคือเผด็จการ อย่างไหนคือประชาธิปไตย แบบนี้ เปรียบเหมือนบัวใต้น้ำ ได้แต่เป็นอาหารของปลาและเต่าไปวันๆ” นายนิพิฏฐ์ กล่าว