โดยราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น หลัง Baker Hughes รายงานจำนวน U.S. Rig count ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ค.63 พบว่าปรับตัวลดลง 34 แท่น สู่ระดับ 374 แท่น ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยจำนวน Rig count ปรับลดลงเฉลี่ย 52 แท่น ต่อสัปดาห์ หลังราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค.63 เนื่องจากสงครามราคาระหว่างรัสเซียกับซาอุดิอาระเบียและความต้องการใช้น้ำมันที่ถูกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตน้ำมันดิบในทวีปอเมริกาปรับลดกำลังการผลิตลงตามข้อตกลงกลุ่มโอเปกพลัส ล่าสุดกลุ่มผู้ผลิตดังกล่าวลดกำลังผลิตลง 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 10 จากกำลังการผลิตรวม โดยจะปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย. 63 ทั้งนี้คาดว่า ConocoPhiliips จะปรับลดลง 4.6 แสนบาร์เรลต่อวันและ Exxon ปรับลดลง 2.6 แสนบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ หลายประเทศเริ่มประกาศคลายล็อกดาวน์ อาทิเช่น ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และบางรัฐในสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนความต้องการใช้น้ำมันในอนาคต