13 เมย. 2563 กองบังคับการปราบปราม โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม, พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ, พ.ต.ท.เอกสิทธ์ ปานสีทา, พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป. สั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร์, ร.ต.อ.ณรงค์ หาญสันเทียะ สว.กก.4 บก.ป., ร.ต.อ.จิรัฎฐวัฒน์ กิจรุ่งเรืองเดช, ร.ต.อ.ถวิล สายอินต๊ะ รอง สว.กก.4 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.33 และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท
ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 7 ราย ประกอบด้วย
1.นายวรพจน์ รูปสูง อายุ 38 ปี
2.นายธนะชัย มีเสียง อายุ 30 ปี
3.นายอำนวย ศรีชัย อายุ 54 ปี
4.นายประสิทธิ์ มีความรู้ อายุ 35 ปี
5.นายประสิทธิ์ กิจไว อายุ 51 ปี
6.นายอนันต์ เคร่งครัด อายุ 52 ปี
7.นายพัทยา คำหล้า อายุ 42 ปี
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 22.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้น หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ และ เข้าไปกระทำการใดๆ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ต๋า และป่าแม่มาย ซึ่งเป็นพื้นที่เตรียมการประกาศอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุอันควร ตามประกาศจังหวัดลำปาง เรื่อง ห้ามมิให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดเผาป่า หรือเข้าไปกระทำการใดๆ ในเขตป่า ในพื้นที่จังหวัดลำปาง ลง 18 กุมภาพันธ์ 2563”
พฤติการณ์ของพรานกลุ่มนี้โดย เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามได้รับแจ้งจากสายลับว่า บริเวณ ถนนหลังอ่างเก็บน้ำแม่ฟ้า ต.แจ้ห่ม อ.แจ้ห่ม จว.ลำปาง มีชายไทยกลุ่มหนึ่งประมาณ 20 คน ลักลอบฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยขับขี่รถจักรยานยนต์มาเป็นกลุ่มขบวน พกพาอาวุธปืนยาว ขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าเข้าไปในบริเวณเขตป่าสงวน ป่าแม่ต๋าและป่าแม่มาย อ.แจ้ห่ม จว.ลำปาง เมื่อทราบดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท และเจ้าหน้าที่ กก.ตชด.33 จึงได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.05 – 01.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบกลุ่มบุคคลดังกล่าวบริเวณ เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ต๋าและป่าแม่มาย บ้านสบฟ้า หมู่ 7 ต.แจ้ห่ม อ.แจ้ห่ม จว.ลำปางเขต จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจค้นและสามารถจับกุมตัว ผู้ต้องหาได้จำนวน 7 คน และ ตรวจยึดอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ ได้จำนวน 1 กระบอก ตรวจยึดรถจักรยานไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 7 คัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาทราบ พร้อมนำตัวส่ง พงส.สภ.แจ้ห่ม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า มีอาชีพหาของป่าและสัตว์ป่า
