“อนุสรณ์”ชี้รัฐต้องปรับเยียวยาให้ครอบคลุม

8 เม.ย. 2020

356

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง มติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เรื่องมาตรการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน และ ล่าสุด ครม.มีมติให้ขยายการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบ เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย.2563 รวมเป็นเงิน 30,000 บาท แต่ให้แค่ 9 ล้านคนเท่านั้น ว่า การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค-19 เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำอย่างเร่งด่วน แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่าผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาเพียง 9 ล้านคน จากจำนวนผู้มาลงทะเบียนขอรับการเยียวยามากถึง 24 ล้านคน เป็นจำนวนที่ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดแล้วหรือไม่ รัฐบาลประเมินตัวเลขจากข้อมูลใดว่าเยียวยา 9 ล้านคนเพียงพอเหมาะสม เพราะที่ผ่านมารัฐบาลประเมินตัวเลขผู้ที่จะได้รับการเยียวยาผิดพลาด แล้วคนที่ลงทะเบียนแต่ไม่ได้รับเงินอีก 15 ล้านคน จะช่วยเหลือคนเหล่านี้อย่างไร ระหว่างการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน 30,000 บาทต่อคนได้ 9 ล้านคน กับการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน 15,000 บาทต่อคนได้ 18 ล้านคน แบบไหนจะเป็นการกระจายการช่วยเหลือในภาวะที่งบประมาณมีจำกัดออกไปได้มากกว่ากัน

ทั้งนี้ รัฐบาลต้องไปตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดและเร่งรัดเข้าไปช่วยเหลือ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของทางราชการ ขอให้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาที่มาจากเงินงบประมาณแผ่นดินให้ตกถึงมือผู้เดือดร้อนจริงๆ

“อนุสรณ์” ซัดส.ว.ควรมีจิตสำนกช่วยเหลือประชาชน เชื่อกระแสตัดเงินเดือนส.ว.จากประชาชนจะมากขึ้น

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีข้อเสนอให้หักเงินเดือนสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไปแก้ปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า กระแสสังคมที่ออกมากดดัน สะท้อนว่าประชาชนรู้สึกอย่างไร ต่อความจำเป็นของการมีส.ว.หรือมองไม่เห็นประโยชน์ของการทำหน้าที่ส.ว. ประชาชนรับรู้โดยทั่วไปว่าส.ว.ชุดนี้มีที่มาอย่างไร 6 ใน 10 กรรมการสรรหาส.ว.กลับสรรหาตัวเองมาเป็นส.ว.เสียเอง ประชาชนตั้งคำถามว่า เป็นส.ว.ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี เพื่อพล.อ.ประยุทธ์ โดยพล.อ.ประยุทธ์ คือ ตั้งมาเพื่อจะมาโหวตพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจเท่านั้นเอง นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีงานทำเป็นเรื่องเป็นราว เงินเดือนส.ว. 1 คนและทีมงาน รับรายได้เดือนละ 250,000 บาท ส.ว. 250 คน เงินเดือนจากภาษีของประชาชนที่ต้องจ่าย คือเดือนละ 62,500,000 บาท ในขณะที่บางส่วนเป็นนายทหาร เป็นอดีตข้าราชการ มีรายได้หลักแสนต่อเดือนอยู่แล้ว แต่ก็มารับรายได้ 2 ทาง วันนี้ประชาชนที่เคยดูแล ส.ว. เดือดร้อนจากมหาวิกฤตโควิด ก็อยู่ที่สปิริต จิตสำนึก และการแสดงน้ำใจต่อพี่น้องประชาชนในยามที่ประชาชนเดือดร้อนของส.ว.

ทั้งนี้ ตอนจะโหวตพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ พร้อมเพรียงแข็งขัน พอสังคมกดดัน ให้ตัดเงินเดือน ส.ว. กลับโบ้ยกันไปมา เชื่อว่าจากนี้ไปกระแสกดดันให้ตัดเงินเดือนส.ว.จากประชาชนจะมากขึ้นเรื่อยๆ