หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม'พฐ.' เช็คไรเฟิล 'เปรมชัย' สงสัยโยงยิงช้างกุยบุรี 'ศรีวราห์' มั่นใจหลักฐานมัด ล่าสัตว์ป่า

‘พฐ.’ เช็คไรเฟิล ‘เปรมชัย’ สงสัยโยงยิงช้างกุยบุรี ‘ศรีวราห์’ มั่นใจหลักฐานมัด ล่าสัตว์ป่า

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล้อปเม้น จำกัด (มหาชน) ว่า ศาลนัดให้นายเปรมชัย รายงานตัวในวันที่ 26 มีนาคม ไม่ใช่การขอเลื่อนรายงานตัว แต่ศาลเห็นว่าศาลจังหวัดทองผาภูมิอยู่ไกลเดินทางลำบาก จึงนัดให้นายเปรมชัย กับพวก รายงานตัวผัดฟ้องครั้งที่ 4 คือวันที่ 26 มีนาคม หากไม่เดินทางมาตามนัดก็จะริบเงินประกัน และออกหมายจับ ส่วนนายเปรมชัยจะเดินทางมาหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ แต่จากการตรวจสอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังไม่พบรายชื่อนายเปรมชัย เดินทางหลบหนีออกประเทศ สำหรับการตรวจพิสูจน์ว่า นายเปรมชัย เป็นคนยิงช้างหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ เนื่องจากในทางกฎหมายแล้วเพียงแค่ลักลอบนำอาวุธปืนขึ้นไปบนอุทยานฯก็ถือว่ามีความผิดแล้ว ยืนยันผู้ต้องหาทั้ง4คน มีความผิดร่วมกันชัดเจนและมีอัตราโทษเท่ากันไม่ว่าบุคคลใดจะเป็นคนยิงก็ตาม โดยคดีนี้มั่นใจว่าอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแน่นอน

รองผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีตรวจสอบการรุกป่า6 พันไร่ ว่า จากข้อมูล พบว่า บริษัท ซีพีเค เคยได้รับสัมปทานเช่าพื้นที่นี้เมื่อปี2552-2556 แต่หลังจากนั้น มีการยกเลิกสัมปทาน และยื่นเอกสารสิทธิ์ในการครอบครองแทน ซึ่งไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้จากหลักฐานเบื้องต้นไม่พบว่านายเปรมชัย มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะการครอบครองกระทำในนามนิติบุคคล อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้แจ้ง ปปง. ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เนื่องจากเป็นการบุกรุกป่าเพื่อการค้า

ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง(ผบก.พฐก.) กล่าวว่า ผลการตรวจพิสูจน์หาคราบเขม่าดินปืนในรถยนต์ของนายเปรมชัย ไม่พบคราบเขม่าดินปืนแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเป็นอาวุธปืนลูกซอง และยิงตรงจุดสำคัญคือบริเวณหัวของเสือดำ สอดคล้องกับอาวุธปืนของนายเปรมชัย ส่วนซากเสือดำจากการตรวจสอบพบว่า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าบริเวณส่วนหัว และส่วนอื่นๆหลายนัด

ผบก.พฐก. กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบอาวุธปืน ลูกกระสุนปืนหลายรายการที่ตรวจค้นได้ที่บ้านของนายเปรมชัย ว่ามีการนำไปก่อเหตุในพื้นที่ไหนมาก่อนหรือไม่ เพราะหลายปีที่ผ่านมามีการใช้อาวุธปืนไรเฟิลยิงสัตว์ป่า และขณะนี้กองพิสูจน์หลักฐาน7 ได้ประสานขอลูกกระสุนปืนไรเฟิลที่ตรวจยึดได้ไปตรวจเทียบเคียงกับหัวกระสุนปืนไรเฟิลที่พบในซากช้างป่าที่ถูกยิงบริเวณอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อประมาณ3-4 ปีก่อน ว่าเป็นกระบอกเดียวกันหรือไม่ โดยคาดว่าจะทราบผลภายใน 3 วัน เรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้ เพราะมีการเก็บหลักฐานไว้ ถึงแม้ว่าซากช้างจะไม่อยู่แล้ว แต่ทุกครั้งที่ช้างถูกยิง เจ้าหน้าที่จะเก็บลูกกระสุนไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีนี้ตำรวจเพียงสงสัย เพราะตรวจพบว่าเป็นอาวุธที่มีขนาดเดียวกัน ตอนนี้เป็นเรื่องของการสงสัยเท่านั้น ยังไม่มีข้อมูลว่านายเปรมเดินทางไปในห้วงเวลาที่ช้างถูกยิงหรือไม่ เป็นการเปรียบเทียบเชื่อมโยง จึงต้องพิสูจน์ทราบ


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img