สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2562 ลงจาก 3.3 % (ที่ประมาณการไว้เดือน มิ.ย 62) เหลือที่ 2.8% เสนอรัฐบาลประคองเศรษฐกิจ เร่งกระตุ้นการลงทุน สงครามการค้าโลกเริ่มลามมาไทย กระทบการลงทุนและผู้บริโภค
ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า “ภาวะชลอตัวจากภาคต่างประเทศเริ่มจะลุกลามมาในประเทศไทย ส่งผลให้ภาคการลงทุนเอกชนมีแนวโน้มที่จะติดลบในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มติดลบอย่างต่อเนื่องแต่ไม่รุนแรงเท่าครึ่งแรกของปี เมื่อการส่งออกมีปัญหาก็จะเห็นผู้ประกอบการเริ่มมีการปรับแผน โดยลดกำลังการผลิตลง จะมีผลต่อการนำเข้าเครื่องจักรและรวมไปถึงวัตถุดิบอื่นๆ เกิดภาวะ เงียบเหงา เมื่อภาคเอกชนมีการชะลอการลงทุน จะส่งผลกระทบต่อมายังภาคการบริโภค รวมถึงการจ้างงานก็จะมีแนวโน้มลดลง ขั่วโมงการทำงานก็จะมีแนวโน้มถูกตัดมากขึ้นและเชื่อว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐจะช่วยประคองเศรษฐกิจไม่ให้ย่ำแย่มากไปกว่านี้ อย่างไรก็ดี สำนักวิจัยฯ มองว่านโยบายที่จะกระตุ้นภาคการลงทุนมีความจำเป็นอย่างมากและหวังจะได้เห็นแรงกระตุ้นภาคการลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี ขณะที่นโยบายการเงินมีโอกาสจะได้เห็นมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม เราคาดการณ์ว่าทางการจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
เพื่อเป็นการประคองเศรษฐกิจ โดยลดภาระค่าใช้จ่ายภาคเอกชน อีกทั้งจะช่วยประคองผู้ส่งออก โดยกดค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงด้วย “ด้านค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงได้จากภาวะปัจจุบัน แม้วันนี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับเฟตโดยเชื่อว่าเฟตจะปรับลดดอกเบี้ยถึง 4 ครั้ง แต่สำนักวิจัยฯ มองสวนทางกับตลาด โดยมองว่าเฟตไม่มีความจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยมากขนาดนั้น แต่มีความเป็นไปได้ที่ว่าเฟตจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 3 ครั้ง ซึ่งถ้าเฟตลงดอกเบี้ยเท่ากับที่ สำนักวิจัยฯ คาดการณ์ ตลาดจะปรับปรุงมองของการลงทุน โดยกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์สกุลดอลลาร์มากขึ้น ผลคือ ค่าเงินบาทและค่าเงินภูมิภาคจะกลับมาอ่อนค่าลงได้เล็กน้อยและคาดว่าค่าเงินบาทในช่วงปลายปี จะอยู่ที่ 30.9 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และสรุปว่า ภาวะสงครามการค้ามีแนวโน้มจะลากยาวไปจนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีหน้า และตราบใดที่ทรัมป์ยังนั่งตำแหน่งผู้นำสหรัฐ ความตรึงเครียดของสหรัฐและจีนก็ยังคงมีต่อเนื่อง ดังนั้น เศรษฐกิจไทยก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตช้าและจะลุกลามไปถึงปี 2563.