เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี เปิดเผยถึงกรณี จับกุมเรือโชติชัยนาวี 35 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเป็นเรือผิดกฎหมาย เข้าในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต สืบสวนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ จากการสอบปากคำนายประวิตร์ เกิดสุวรรณ์ ไต๊ก๋งเรือโชติชัยนาวี 35 หลังพบลักลอบนำเรือประมงผิดกฎหมายเข้าประเทศ จากการสืบสวนทราบว่าบริษัทเอสวีจี ฟิชเชอรี่ ดีเวลล้อปเมนท์ จำกัด ได้ติดต่อขอนำเรือเข้าเทียบท่าที่ท่าจีน ยูเนี่ยน พอร์ต จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อนำสัตว์น้ำขึ้นประเทศ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารพบว่าเรือโชติชัยนาวี มีเพียงเอกสารใบอนุญาตจับสัตว์น้ำจากรัฐปุนท์แลนด์ แต่ที่กำหนดให้จับสัตว์น้ำได้ 270,000 กิโลกรัมเท่านั้น และเมื่อตรวจสอบไปยังประเทศโซมาเลีย และพบว่าเรือดังกล่าวเป็นเรือผิดกฎหมาย ไม่ได้รับการอนุญาตการทำประมงจากประเทศโซมาเลีย ไม่มีประวัติการทำประมง และเรือไม่ได้ติดตั้งระบบติดตามเรือ หรือ VMS จากการตรวจสอบภายในเรือพบลูกเรือชาวไทย 22 คนและชาวกัมพูชา 1 คน และพบมีสัตว์น้ำในเรือกว่า 5 แสนกิโลกรัม ซึ่งเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงแจ้งความดำเนินคดีกับ บริษัท GREEN LAUREL INTERNATIONAL SARL ในฐานะนิติบุคคลเจ้าของเรือ 1.นายศุภโชติ แสงสุขเอี่ยม กรรมการบริษัท GREEN LAUREL 2.นางสาวสุรกาญจน์ แสงสุขเอี่ยม กรรมบริษัท GREEN LAUREL บริษัทเอสวีจี ฟิชเชอรี่ ดีเวลล้อปเมนท์ จำกัด ในฐานะนิติบุคคลผู้ขออนุญาตนำเรือเข้าประเทศ และนายวันชัย แสงสุขเอี่ยม หลังสืบทราบภายหลังว่าเป็นเข้าของเรือที่แท้จริง
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวอีกว่า นายศุภโชติ และ นายวันชัย ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ส่วนนางสาวสุรกาญจน์ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 แต่ยังไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเนื่องจากอ้างว่าไม่สบาย โดยได้ติดต่อขอเข้าพบเจ้าหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ แต่หากไม่มาตามนัดหมาย ก็จะมีการขอหมายจับตามขั้นตอน เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามคนงานกัมพูชาที่พบบนเรือโชติชัยนาวี 35 ให้กาารว่าหลบหนีมาจากเรือโชติชัยนาวี 55 เนื่องจากไม่สามารถทนต่อสภาพการทำงานได้ จึงหลบหนีขึ้นเรือโชติชัยนาวี 35 เพื่อกลับมายังประเทศไทย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวกลับประเทศกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ต้องหามีความผิดเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา “นำเรือประมงที่ทำผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษปรับ 1 ล้านบาท ถึง 30 ล้านบาท