เมื่อวันที่ 22 ม.ค 61สภ.เมืองยะลา ผู้สื่อข่าวไทยแท็บลอยด์รายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดขึ้นที่ภายในตลาดสดพิมลชัย หน้าร้านค้าส่ง ซอย 3 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และ มีผู้ได้รับบาดเจ็บนับสิบราย
ภายหลังได้รับแจ้ง ร.ต.ท.เอกพงศ์ รัตนชัย รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน ได้แจ้งให้ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.ยะลา พ.ต.อ.ประวิตร ช่อเส้ง ผกก.สภ.เมืองยะลา ทราบ พร้อมประสาน กำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทันที
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณตลาดผงขายหมู ซอย 3 พบมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ช่วยกันลำเลียงส่งโรงพยาบาลยะลา รวม 19 ราย และพบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด ภ.จว.ยะลา เข้าตรวจสอบ โดยพบเศษซากของรถจักรยานยนต์ยังไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน ของคนร้ายในสภาพพังยับเยินจากแรงระเบิด รวมทั้ง เศษแผงวงจรอีเลคทรอนิค เศษสายไฟ เหล็กเส้นตัดขนาด 1 ซม กระจายอยู่ จึงรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเชื่อเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายนำมาบรรจุในรถจักรยานยนต์ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 20 กก ซึ่งคนร้ายได้นำมาจอดที่หน้าแผงขายเนื้อหมู ก่อนจุดชนวนระเบิดขึ้น
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ มีชายวัยรุ่นมุสลิมขับขี่รถ จักรยานยนต์คันดังกล่าว มาจอดที่หน้าแผงขายเนื้อหมู โดยเจ้าของร้านได้ตะโกนเรียกชายวัยรุ่นดังกล่าวให้เลื่อนรถ แต่ชายวัยรุ่นคนดังกล่าวได้เดินหนีไป จากนั้นเจ้าของแผงขายเนื้อหมู จึงได้เดินไปที่รถคันดังกล่าวเพื่อเลื่อนรถออก และในขณะกำลังจะเลื่อนรถ ก็เกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บดังกล่าว โดยล่าสุดมีรายงานจากโรงพยาบาลยะลาว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รายจากแรงระเบิด รวมมีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 18 ราย
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สั่งการให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยรอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งเส้นทางต่างๆ โดยรอบ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถบันทึกภาพของคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ ส่วนสาเหตุเชื่อกลุ่มคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(22 ม.ค 61) คนร้ายได้ลอบวางระเบิด ที่บริเวณตลาดสดพิมลชัย หน้าร้านค้าส่ง ซอย 3 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก นั้น
หลังเกิดเหตุ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับทางท่านแม่ทัพภาค 4 ให้เข้าควบคุมสถานการณ์ บริหารที่เกิดเหตุ และเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ อย่างเร่งด่วน โดยให้ทางศูนย์แพทย์ทหารบก จชต.จัดชุดแพทย์ ร่วมกับ ร.พ.ยะลา และทางเยียวยา จ.ยะลา เปิดรับลงทะเบียน ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ส่วนด้านคดี ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมวัตถุพยาน ตรวจสอบสภาพแวดล้อม ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เบื้องต้นพบเบาะแสคนร้าย แล้ว เห็นรูปพรรณ สัณฐาน ส่วนจะเป็นกลุ่มไหนที่ลงมือก่อเหตุ ต้องใช้เวลาตรวจสอบว่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มใดบ้าง
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า คนร้ายไม่เคยละความพยายาม ที่จะก่อเหตุทำร้ายพี่น้องประชาชน ทรัพย์สิน ทำลายเศรษฐกิจเมืองหลัก ทำลายภาพลักษณ์ และทำลายความเชื่อมมั่นเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ขอฝากแนวร่วม ที่อยู่ในคราบของภาคประชาสังคม ขอให้ใช้ดุลยพินิจในการออกมาเรียกร้อง ในการบังคับใช้กฎหมายของทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการอย่างเด็ดขาด กับผู้ที่ได้สร้างความเดือดร้อน กับประชาชน
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงเหตุระเบิด หน้าตลาดสดพิมลชัย อ.เมืองยะลา จว.ยะลา ว่า
ได้รับรายงานว่า เมื่อ 22 ม.ค.61 เวลา 06.20 น. สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนลอบวางระเบิด ตลาดสดพิมลชัย หน้าร้านค้าส่ง ซอย 3 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จว.ยะลา เบื้องต้น มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ได้รับบาดเจ็บ 18 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.ศูนย์ยะลา
พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุระเบิด ถ่ายภาพทำแผนที่เกิดเหตุ ทำแผนที่สังเขปแสดงที่เกิดเหตุ และดำเนินการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมยังให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแสหรือข้อมูลของคนที่ก่อเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ
รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกันนี้ ได้มีข้อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดการจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้โดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ และยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนที่เข้ามาทำธุรกิจ ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น อีกทั้งยังกำชับให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันอาชญากรรม ในการเพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราสถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว หรือ สถานที่สำคัญ ที่อาจเป็นเป้าหมาย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ ตลอดจนเพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ และชุมชน
สำหรับสาเหตุระเบิดในครั้งนี้ อาจเกิดจากฝีมือของกลุ่มคนร้ายที่สร้างสถานการณ์ในพื้นที่ หรือ เกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดๆทิ้งไป จนกว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจนไปถึงผู้ก่อเหตุ ทั้งนี้ ก็ขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าสังเกตบุคคล วัตถุต้องสงสัย หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที