ตำรวจสอบสวนกลางผนึกกำลังตำรวจทางหลวง รวบ 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต คดีแอบอ้างเป็นตำรวจยศสูง หลอกรีดเงินนักท่องเที่ยว อ้างช่วยภารกิจชายแดน ขณะหลบหนีจากภูเก็ตเข้ากรุงเทพฯ ยึดรถยนต์และบัตรสื่อเป็นของกลาง
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลอกลวงและรีดไถเงินจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้สำเร็จ ขณะเดินทางหลบหนีออกจากจังหวัดภูเก็ต มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร
การจับกุมครั้งนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย โดยกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง นำโดย พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผู้กำกับการฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง จังหวัดภูเก็ต
ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ได้แก่นายปริภัทร อายุ 47 ปี
และนายสุริยา อายุ 51 ปีทั้งสองเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 1210/2568 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2568 และหมายจับที่ จ.1211/2568 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2568 ในข้อหา “ร่วมกันพยายามฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นคนอื่น”
การจับกุมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 13.55 น. บริเวณหน่วยบริการตำรวจทางหลวงท่าแซะ ถนนเพชรเกษม กม.478+200 ตำบลท่าข้าม อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อ MG สีขาว กำลังใช้เป็นพาหนะหลบหนี
เจ้าหน้าที่ตรวจพบรถต้องสงสัยบนถนนทางหลวงหมายเลข 4 กม.473 ขาเข้า กทม. จึงส่งสัญญาณให้หยุดตรวจสอบ พบ นายปริภัทร เป็นผู้ขับขี่ และนายสุริยา นั่งโดยสารอยู่ด้านหน้า เมื่อตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าทั้งสองเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน
จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลาง ได้แก่
บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่สื่อมวชนของนิตยสารฉบับหนึ่ง จำนวน 2 ใบ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ MG สีขาว จำนวน 1 คัน
สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวจัดทำบันทึกการจับกุม ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง จังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับพฤติการณ์ในคดี พบว่าก่อนถูกออกหมายจับ ผู้ต้องหาทั้งสองได้แอบอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศสูง เข้าไปยังพื้นที่ตำบลราไวย์ จังหวัดภูเก็ต และหลอกรีดเงินจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้าพักในวิลล่าหรู โดยอ้างว่าจะนำเงินไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน สร้างความเสียหายและความเดือดร้อนแก่นักท่องเที่ยว จนนำไปสู่การแจ้งความและการออกหมายจับดังกล่าว
ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว อย่าหลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หากมีการขอรับเงินหรือมีพฤติกรรมต้องสงสัย ควรตรวจสอบบัตรประจำตัว หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทันที โดยย้ำว่าความร่วมมือจากประชาชนคือพลังสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม เพื่อความปลอดภัยของสังคมโดยรวม
