“อรรถวิชช์” แจงปมไวรัล “คุกอัซคาบัน” ยัน “คุกกลางทะเล” ไม่ใช่เรื่องแฟนตาซี แค่เปลี่ยนแท่นขุดเจาะร้างขังนักโทษยาเสพติด

109

กรุงเทพฯ, วันที่ 29 ธ.ค. – จากนโยบาย “คุกกลางทะเล” ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เรียกเสียงฮืฮาจากสังคม จนกลายเป็นไวรัลเปรียบเทียบว่าเหมือนจะเนรมิต “คุกอัซคาบัน” จากภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาไว้ในเมืองไทยนั้น นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออกมาชี้แจงถึงเบื้องลึกของแนวคิดดังกล่าว โดยยืนยันว่านโยบายนี้ไม่ใช่เรื่องแฟนตาซีเหมือนในภาพยนตร์ แต่เป็นการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่จริงให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยทางพรรคมีแผนที่จะนำ “แท่นขุดเจาะน้ำมันกลางอ่าวไทย” ที่หมดสัญญาสัมปทานและถูกทิ้งร้าง ซึ่งเดิมมีการลงทุนก่อสร้างไว้มูลค่าหลายพันล้านบาท มาปรับปรุงเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง

“เราต้องยอมรับความจริงว่า ปัจจุบันเรือนจำปกติ ก็ยังไม่สามารถต้านทานอำนาจเงินของกลุ่มทุนเทาได้ ยังมีการลักลอบใช้โทรศัพท์มือถือสั่งยา สั่งงานออกมาข้างนอก หรือแม้แต่การนำผู้หญิงเข้าไปข้างใน แต่สำหรับคุกกลางทะเล ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะทะเลคือกำแพงธรรมชาติที่ดีที่สุด” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว

นายอรรถวิชช์ กล่าวขยายความถึงจุดเด่นของนโยบายนี้ใน 3 ประเด็นหลัก ว่า 1. เป็นแดนแรกรับคดียาเสพติด แยกนักโทษกลุ่มนี้ออกจากนักโทษคดีอื่น เพื่อป้องกันการสร้างเครือข่ายใหม่ในคุก 2. ตัดขาดการสื่อสาร 100% พื้นที่กลางทะเลไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ทำให้นักโทษไม่สามารถติดต่อสั่งการเครือข่ายภายนอกได้ และ 3. ยากต่อการเข้าถึงและแทรกแซง การเข้าเยี่ยมต้องเดินทางด้วยเรือเท่านั้น ซึ่งควบคุมได้ง่าย และลดโอกาสการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้าไป

นายอรรถวิชช์ ยังย้ำถึงความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติว่า นโยบายนี้สามารถทำได้จริงและทำได้ทันที เนื่องจาก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค มีประสบการณ์เคยดำรงตำแหน่งทั้ง รมว.ยุติธรรม และรมว.พลังงาน จึงมีความเข้าใจลึกซึ้งในระเบียบกฎหมายและกลไกของทั้งสองกระทรวง เป็นเครื่องการันตีว่านโยบายนี้จะไม่ใช่แค่ความฝัน แต่จะเป็นมาตรการปราบปรามยาเสพติดที่เห็นผลเป็นรูปธรรม

“นี่คือการนำสินทรัพย์ที่เหลือใช้จากการสำรวจพลังงาน มาสร้างความยุติธรรมคืนสู่สังคม พรรครวมไทยสร้างชาติ (เบอร์ 6) พร้อมแล้วที่จะสังคายนาระบบราชทัณฑ์ เพื่อล้างบางขบวนการยาเสพติดให้สิ้นซาก” นายอรรถวิชช์ ทิ้งท้าย