“สุริยะ” นำทัพปราศรัยประเดิมเวทีแรก ช่วยผู้สมัคร กทม.เขต 29 ย้ำเลือกเพื่อไทยทั้งคน ทั้งพรรค ได้รถไฟฟ้า 20 บาท ได้ปลดภาระหนี้สิน

78

กรุงเทพฯ, 28 ธ.ค. – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรค จักรภพ เพ็ญแข ผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ นายนวรัตน์ อยู่บำรุง , นายสุพิน คล้ายนก และน.ส. ขัตติยา สวัสดิผล รองเลขาธิการพรรค ขึ้นปราศรัยย่อยเวทีแรกในพื้นที่ กทม. ที่ลานเอนกประสงค์ หมู่บ้านพงษ์ศิริชัย 4 ช่วย ดร.ตั้น กฤชนนท์ อัยยปัญญา เบอร์ 4 อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม เป็นผู้สมัคร สส. เขต 29 บางแค (เฉพาะแขวงบางไผ่-แขวงบางแคเหนือ) หนองแขม (เฉพาะแขวงหนองค้างพลู)

นายสุริยะ ระบุว่า ทราบดีว่าหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่กินกินใจพี่น้องอยู่ทุกวันคือ ปัญหาหนี้สิน ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะเข้าไปแก้ไขปัญหานี้แน่นอน ในการเลือกตั้งปี 2566 ตนได้กลับมาอยู่ที่พรรคเพื่อไทย พร้อมกับ ดร.ตั้น ซึ่งเคยทำงานร่วมกันตอนที่อยู่กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ทำงานเป็น จึงอยากจะขอฝาก ดร.ตั้น เบอร์ 4 ไว้ให้รับใช้พี่น้องด้วย และขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยเข้าไปแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนด้วย

“ดร.ตั้น เวลาเขาลงพื้นที่ เขาจะจดปัญหาต่างๆ ของพี่น้องไปตลอดเวลา แล้วก็มาบอกผม คนนี้ทำงานเป็น ไม่ต้องสั่ง เขาทำให้ก่อนตลอด” ผอ.พรรคเพื่อไทย กล่าว

ด้าน นายกฤชนนท์ กล่าวขอบคุณชาวหนองค้างพลูกว่า 1 พันคนที่มาร่วมรับฟังการปราศรัยครั้งแรกในวันนี้ และประชาชนที่เคยให้ความไว้วางใจในการเลือกตั้งปี 2566 กว่า 20,000 คะแนน แม้ครั้งนั้นจะพ่ายแพ้จากกระแสทางการเมือง แต่ครั้งนี้ขอให้พี่น้องประชาชนที่มาร่วมรับฟังช่วยบอกต่อไปยังลูกหลานให้เลือก เบอร์ 4 เพราะเลือกแล้วหาตัวเจอแน่นอน แม้ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ยังคงลงพื้นที่ รับฟัง และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้จึงขอโอกาสอีกครั้ง เพื่อนำปัญหาที่ได้รับฟังจากประชาชนเข้าไปผลักดันและแก้ไขในสภา

นายกฤชนนท์ กล่าวว่า ปัจจุบันตนอายุ 45 ปี มีประสบการณ์การทำงานหลากหลายด้าน ล่าสุดได้ทำงานร่วมกับ นายสุริยะ ในตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม หากได้รับโอกาสเข้าไปเป็น สส. ก็พร้อมทำงานขับเคลื่อนนโยบาย และนำปัญหาของพี่น้องประชาชนไปแก้ไขอย่างจริงจัง พร้อมย้ำว่าตนเติบโตในพื้นที่นี้ เข้าใจวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะประชาชนที่ต้องเดินทางจากบ้านไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีหลักสอง เพื่อเข้าไปทำงานในเมือง ซึ่งเพียงแค่ค่าเดินทางจากบ้านถึงที่ทำงานก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเกือบ 100 บาทต่อวัน

นายกฤชนนท์ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยมองเห็นปัญหานี้ และได้เตรียมนโยบายไว้จนเกือบสำเร็จ แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ทำให้นโยบายดังกล่าวไม่ได้รับการสานต่อ อย่างไรก็ตาม หากพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล จะผลักดันนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และรถเมล์แอร์ 10 บาท ภายใน 3 เดือนหลังการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนในกรุงเทพฯ สามารถเดินทางออกจากบ้านไปที่ใดก็ได้ด้วยค่าใช้จ่ายเพียงเที่ยวละ 30 บาท หรือไป-กลับไม่เกิน 60 บาท

นายกฤชนนท์ ย้ำว่า หากนโยบายดังกล่าวได้รับการดำเนินการต่อ ไม่เพียงช่วยให้เงินในกระเป๋าของประชาชนเหลือมากขึ้น แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต เมื่อประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถบนท้องถนนจะลดลง ส่งผลให้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้พรรคตระหนักดีว่าปัญหาหนี้สินเป็นภาระหนักของประชาชน ดังนั้นเป้าหมายของพรรคคือการปลดภาระดังกล่าว เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับมาดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีอีกครั้ง